วันพุธที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

บรรยากาศงาน “ THANK YOU PARTY ” จาก เหล่ากาชาดสระบุรี

เมื่อ 27 ก.พ. 56 เวลา 18.30 น. ณ.จวนผู้ว่าฯสระบุรี นายถาวร พรหมมีชัย ผวจ.สระบุรี นางนันทิยา พรหมมีชัย นายกเหล่ากาชาดสระบุรี และคณะกรรมการเหล่ากาชาดสระบุรีได้ จัดงาน“ THANK YOU PARTY ” ขึ้น เพื่อแสดงความขอบคุณ หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พนักงาน ทหาร ตำรวจ องค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น บริษัท ห้างร้าน พ่อค้า ประชาชนและสื่อมวลชนทุกแขนง ทุกท่านที่ร่วมงานให้การสนับสนุน งาน การกุศล งานกาชาดสระบุรี ที่จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 24 ธันวาคม 2555 ถึงวันที่ 1 มกราคม 2556 รวม 9 วัน บริเวณ สนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี ที่ผ่านมาสำเร็จ ลุล่วงไปด้วยดี อันมีประโยชน์ ต่อสังคม, ชุมชน คนยากจน และผู้ด้อยโอกาส (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

งานบูธ ติดแอร์ Smile Saraburi สุดยอด OTOP และสินค้าเกษตร Grand Sale ครั้งที่ 3

พัฒนาการจังหวัดสระบุรีและเครือข่าย OTOP สระบุรีจัดงาน Smile Saraburi สุดยอด OTOP และสินค้าเกษตร Grand Sale ครั้งที่ 3 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคจากเครือข่ายผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 13 อำเภอในจังหวัดในจังหวัดสระบุรี และเครือข่าย OTOP จากทั่วประเทศ เป็นการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ได้ซื้อสินค้าในราคายุติธรรม ซึ่งเป็นบูธติดแอร์จำนวน 170 บูธ และนอกบูธแอร์ประมาณ 90 บูธ รวมทั้งสิ้น 260 บูธ ระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2556 บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี เมื่อ 27 ก.พ.56 เวลา 17.00 น.นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานเปิดงาน นางอารีย์ คีรีวรรณ พัฒนาการจังหวัดสระบุรี ในนามของคณะกรรมการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (นตผ.จังหวัด) และเครือข่าย OTOP สระบุรีกล่าวรายงานมี นายประดิษฐ์ ทิพย์สุมาลัย รอง ผวจ.สระบุรี นายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ หัวหน้าส่วนราชการองค์กรเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมเป็นเกียรติ ประชาชนให้ความสนใจเข้าซื้อสินค้าจำนวนมาก นางอารีย์ คีรีวรรณ พัฒนาการจังหวัดสระบุรี กล่าวว่าการจัดงานในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาคีเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน รวมทั้งคณะกรรมการศูนย์ OTOP คอมเพล็กซ์ จังหวัดสระบุรี การจัดงาน Smile Saraburi สุดยอด OTOP และสินค้าเกษตร Grand Sale ครั้งที่ 3 ในครั้งนี้ เกิดจากผลสำเร็จของการจัดงาน Smile Saraburi สุดยอด OTOP และสินค้าเกษตร Grand Sale ครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดสระบุรี โดยทุกภาคส่วนได้ระดมความช่วยเหลือให้ประชาชนในพื้นที่ผ่านพ้นวิกฤติและคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น จากการจัดงานครั้งที่ 1 และ 2 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายประมาณ 42 ล้านเศษ และในการจัดงานครั้งที่ 3 ครั้งนี้ ดำเนินการระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 5 มีนาคม 2556 ซึ่งจังหวัดสระบุรีดำเนินการเพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการชุมชน กลุ่มผู้ผลิตชุมชน และประชาชนที่ประสบปัญหาจากอุทกภัยที่ผ่านมา มีช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการหมุนเวียนและเป็นการพบปะแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค รวมทั้งมีการจำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภคจากเครือข่ายผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ทั้ง 13 อำเภอในจังหวัดสระบุรี และเครือข่าย OTOP จากทั่วประเทศ ในราคายุติธรรม (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

แถลงข่าว จัดงานมหัศจรรย์พรรณไม้ล้อมตำบลชะอม ครั้งที่ 4 "

จังหวัดสระบุรี จัดแถลงข่าว จัดงาน มหัศจรรย์พรรณไม้ล้อมตำบลชะอม ครั้งที่ 4 " ประจำปี 2556 วันที่ 27 ก.พ.56 เวลา 16.00 น. ณ .บริเวณสถานที่จัดนิทรรศการหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง ( บริเวณลานศาลาหลักเมืองหน้าที่ดินจังหวัดสระบุรี )นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี นางอารีย์ คีรีวรรณ พัฒนาชุมชนจังหวัดสระบุรี นายภาสกร บุญญลักษม์ นายอำเภอแก่งคอย นายทวี มาสขาว เกษตรจังหวัดสระบุรี และหัวหน้าส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกัน แถลงข่าว "มหัศจรรย์พรรณไม้ล้อมตำบลชะอม ครั้งที่ 4 " ประจำปี 2556” ตั้งแต่วันที่ 9 -13 มี.ค.56 ณ.ศูนย์ส่งเสริมอาชีพไม้ขุดล้อม หมู่10 ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อ เพิ่มมูลค่าจากไม้ขุดล้อม” สู่ การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ OTOP และ การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและ Home Stay “วิถีชีวิตของคนไม้ขุดล้อม” การส่งเสริม “อาชีพไม้ขุดล้อม” ส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของชุมชน เปิดงานในวันที่ 9 มี.ค.56.เวลา 09.00 น.โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ภายในงานมีกิจกรรมสันทนาการ กีฬาสัมพันธ์และกีฬาพื้นบ้านมีการจำหน่ายสินค้าพื้นบ้าน,สินค้าโอทอปดัง,อาหารอร่อย,นวดแผนไทย การประกวดพันธ์ไม้ขุดล้อม การประกวดแผงไม้ขุดล้อม กิจกรรมสังสรรค์รวมพลคนไม้ล้อม การประกวดขวัญใจไม้ล้อม การแสดงดนตรีแนวเพื่อชีวิต รำวงย้อนยุคและสวนสนุก รวม 5 วัน 5 คืน (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กอ.รมน.สระบุรีสนธิกำลัง จนท. จู่โจมนายทุนบุกรุกพื้นที่อุทยานเขาสามหลั่น

กอ.รมน.สระบุรีสนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานเขาสามหลั่นจู่โจมนายทุนบุกรุกพื้นที่อุทยานฯอ้างเป็นเพื่อนอธิบดีกรมป่าไม้และน้องนายทหารชั้นผู้ใหญ่ รองผอ.กอ.รมน.สระบุรีพร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นจู่โจมกลุ่มนายทุนที่อ้างว่าตนเป็นนายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฏร์ธานี กำลังแผ้วถางป่าเตรียมการใช้เครื่องมือหนักบุกรุก เขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น อ้างดำเนินการถูกต้องปะทะคารมลั่นคุยได้สอบถามหน.อุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นคนใหม่แล้วเป็นเพื่อนอธิบดีกรมป่าไม้ และน้องนายทหารใหญ่จังหวัดสุราษฏร์ธานี พร้อมประกาศจะต่อสู้คดีท้า นัดแจ้งความโรงพักแต่กลับแก้เกี้ยวไปร้องผู้ว่าฯแทน เมื่อ 21 ก.พ. 56 เวลา15.00 น.หลังได้รับแจ้งจากราษฎร์ในพื้นที่ว่ามีนายทุนบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นบริเวณเชิงเขาไร่นอก พลตรีนพดล พิศวง รองผอ.กอ.รมน สระบุรีพร้อมกับนายทวีพงษ์ ทิพย์สูงเนิน พนักงานพิทักษ์ป่า หน.ฝ่ายนุรักษ์ทรัพยากร อุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น และกำลังเจ้าหน้าที่ จึงรุดตรวจสอบ บริเวณป่าเชิงเขาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น หมู่ 7 บ้านป่าไม้พระฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี พิกัด P 315457 E1596834 พบชาย 4 คนและรถเก๋งมิตซูมิตชิ สีฟ้า ทะเบียน ชช-8975 กทม.และรถเก๋งโตโยต้า สีบร์อนทอง ทะเบียน 5160 กทม. จำนวน2 คัน จอดอยู่ในเขตอุทยานฯแต่ อีก1คนชื่อนายแผน หมื่นหมี ได้หลบหนีไป บริเวณซึ่งโดยรอบมีร่องรอยการแผ้วถางอย่าเห็นได้ชัดจึงสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าวพร้อมแจ้งให้ทราบว่าเป็นการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานทราบว่ามีนายแผน หมื่นมี ที่เคยมีหนังสือขอความเป็นธรรมในการทำประโยชน์ ตามหนังสืออนุญาต สทก 1 ไปยังสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระบุรี เมื่อ 23 ม.ค.56 ที่ผ่านมาหลังเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เคยระงับมาแล้วเพื่อตรวจสอบ หลังทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ตรงตามใบ สทก.1 และได้ทำข้อตกลงร่วมกันไม่ให้ดำเนินการใดๆกับพื้นที่ดังกล่าวก่อนการตรวจสอบเสร็จ แต่ ชาย 1ใน 3 คนทราบภายหลังว่า ชื่อ นายสรพล เกื้อพิริยกุล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 ต.เกาะพงัน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี อ้างว่าตนทำถูกต้องตามขั้นตอนมาแล้วจึงเข้าดำเนินการโดยไม่รับฟังคำชี้แจง ของเจ้าหน้าที่จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง โดยนายสุรพลฯ อ้างว่า ตนเป็นนายกสมาคมการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้คุยกับหัวหน้าอุทยานคนใหม่เรียบร้อยแล้วพร้อมพูดข่ม เจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นเพื่อนกับอธิบดีกรมป่าไม้ และ ชายคนที่มากับ ตนก็เป็นอธิบดี และ ตนยังเป็นน้องชาย พลตรีกิจจา ศรีทองกุล ผบ.จทบ.สุราษฏร์ธานีหากจะดำเนินการอย่างไรก็พร้อมต่อสู้คดีและท้าทายเจ้าหน้าที่ว่าให้ไปคุยกับผู้ว่าราชการสระบุรีก็ได้หรือจะต่างฝ่ายต่างจะแจ้งความกันที่โรงพักก็ได้ เจ้าหน้าที่จึงอธิบายขั้นตอนการดำเนินการให้ฟังพร้อมกับแย้งถึง หน.อุทยานคนใหม่ยังไม่มารับตำแหน่งและคนเก่ายังทำงานอยู่และถามว่าคุณเจ้าของพื้นที่ตรงนี้ใช้หรือไม่จะได้ดำเนินคดีและพลตรีนพดลจึงได้แจ้งให้ทราบว่าตนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับพลตรีกิจจา ที่คุณอ้างถึงและได้สอบถามว่าเป็นน้องพลตรีกิจจาทำไมคนละนามสกุล นายสุรพล จึงเงียบลงและแจ้งว่าแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นัดหมายกับนายสุรพล ไปแจ้งความกันที่สภ.สระบุรีแต่นายสุรพลไม่ไปตามนัด แต่กลับไปเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามนายแผน หมื่นหมี มาสอบสวนให้การว่าตนได้ขายที่ตรงนี้ไปนานหลายสิบปี แล้วโดยมีนายวชิร สุวรรณศร เป็นนายหน้าและตนไม่เคยทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระบุรีและลายเซ็นก็ไม่ใช่ของตนและวันนี้ตนเพียงเป็นผู้ได้รับการว่าจ้าง มาแผ้วถาง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามตรวจสอบกลุ่มบุคลที่ว่าจ้างและหาทางดำเนินคดีต่อไป คนธรรมดา ม้าตัวเดียว;

วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กอ.รมน.สระบุรีจัดโครงการอบรมข่ายข่าวประชาชน เพื่อความมั่นคง

กอ.รมน.สระบุรีจัดโครงการอบรมข่ายข่าวประชาชนมีส่วนร่วมสายด่วน 1374เพื่อความมั่นคง กอ.รมน.สระบุรี สร้างมาตรการเชิงรุกปกป้องสถาบันฯ ป้องกันปราบปรามยาเสพติดรักษาพื้นป่า จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าว โดย.เปิดอบรมเครือข่ายข่าวประชาชน สายด่วนความมั่นคง 1374 มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีเป็นประธานในพิธี ผู้เข้ารับการอบรมจาก 13อำเภอ ของจังหวัดสระบุรี พ.ต.บุญชิตชัย จักรพล รอง.หน.กลุ่มงานข่าว กล่าวรายงาน มี พลตรี นพดล พิศวง รองผอ.กอ.รมน.สระบุรี พ.อ.พงษ์ศิลป์ สถิตย์ขราณี หัวหน้ากลุ่มงานข่าว กอ.รมน.จังหวัด ส.บ.และคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิด้านการข่าว ให้การต้อนรับ ณ.สวนสายป่านรีสอร์ท อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เมื่อ 21 ก.พ. 56 เวลา 13.30 น.นายชโลธร ผาโคตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีเปิดการ อบรมข่ายข่าวประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อความมั่นคง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๖ เพื่อฝึกอบรมให้แก่ภาคประชาชนในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ให้ได้รับความรู้ความเข้าใจต่อปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคง เพิ่มพูนองค์ความรู้และประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูล การรายงานข่าวสาร รวมถึงเพื่อปลุกจิตสำนึกและอุดมการณ์ในการเสริมสร้างความรักสามัคคีของคนในชาติ จัดตั้งเครือข่ายข่าวประชาชนมีส่วนร่วมเพื่อความมั่นคงของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสระบุรี เพื่อปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ของทางราชการในงานด้านการข่าวโดยเน้นในเรื่อง การเฝ้าระวัง การแจ้งเตือน เพื่อป้องกันและยับยั้งภัยคุกคามทุกรูปแบบที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงภายในจังหวัดสระบุรี โดยมีผู้เข้ารับการฝึกอบรมมาจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ที่อาสาสมัครด้วยความสมัครใจในการปฏิบัติงานเพื่อส่วนรวม มีความตั้งใจที่จะปฏิบัติงานช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ราชการในพื้นที่จังหวัดสระบุรี ใช้ระยะเวลาการฝึกอบรมจำนวน 2 วัน (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทัวร์ซิ่งชนท้ายมอเตอร์ไซค์ไฟลุกท่วมอดีตจ่าทหารม้าดับ

เมื่อ16 ก.พ. 56 เวลา 21.30 น. ร.ต.ต.อัศวิน พันธุ์วงษ์ ร้อยเวร สภ.หนองแค สาขา หินกองได้รับแจ้ง ว่าเกิดอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิต จึงรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณถนนพหลโยธิน ทางเบี่ยงออกทางคู่ขาน กม.ที่ 96 -97 ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี พบศพชายสภาพสวมชุดซาฟารี นอนหงายอยู่ ใบหน้าแถบซ้ายยุบทั้งแถบมันสมองกระจาย แขนขาหักทั้ง 2 ข้าง ทราบชื่อตามบัตรประชาชน คือ จ.ส.อ.สุชิน หอมหวล อดีตนายสิบทหารม้าสระบุรี ห่างจากศพประมาณ 10 เมตรพบรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ทะเบียน กยท. 989 สระบุรี ที่ไฟรุกท่วมไหม้ทั้งคันไม่ห่างกัน พบรถปรับอากาศ บริษัท ณ.ศิริ วิ่งเส้นทาง สายกรุงเทพฯ - บุรีรัมย์ เลขข้างรถ 32 – 4 ทะเบียน 10-4732 นครราชสีมาจอดอยู่สภาพกระจกหน้าด้านคนขับแตกกันชนด้านหน้าขวามีรอยยุบจากการเชี่ยวชน จอดอยู่ข้างทาง จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ มี นายปรีชา โทมา อายุ 25 ปี อ้างว่าตนเป็นบริกร ประจำรถคันดังกล่าวก่อนเกิดเหตุขณะที่รถทัวร์คันดังกล่าวขับรถออกจากกรุงเทพฯจนถึงบริเวณที่เกิดเหตุมาเส้นทางคู่ขนานด้วยความเร็ว เป็นจังหวะถึงทางเบี่ยงซ้ายออกคู่ขนาน คนขับได้ขับรถขึ้นแซงขวารถบรรทุกอย่างรวดเร็ว พบว่ามีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตที่ออกจากทางหลักเข้าทางคู่ขนานวิ่งอยู่ด้านหน้า จึงไม่สามารถหยุดรถได้ทัน จนชนเข้าอย่างจังจักยานยนต์กระเด็นไปคนละทางร่างของผู้เสียชีวิตกระเด็นกระแทกเข้ากระจกด้านหน้ารถทัวร์และร่างได้ตกลงมาหน้ารถทำให้รถเหยียบซ้ำเข้าอย่างจังส่วนจักยานยนต์กระเด็นไปคนละทาง จนเกิดไฟลุกไหม้ เสียหายทั้งคัน ส่วนคนขับรถ ปรับอากาศ คันเกิดเหตุ ได้ทิ้งรถแล้วหลบหนีไปแต่ ผลการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีป้ายประจำรถระบุ นายสมพงษ์ ไชยวิเศษ เป็นคนขับ จึงจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป สำหรับผู้เสียชีวิต จ.ส.อ.สุชินฯ เป็นอดีตนายสิบทหารม้าสังกัดศูนย์การทหารม้า จบจาก นนส.ทบ.รุ่น 16/26 (BRAVO 26) ได้ลาออกมาประกอบอาชีพ หัวหน้า รปภ. ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ใน จ.สระบุรี ปัจจุบันไม่มีครอบครัว บิดา มารดา เสียชีวิตแล้ว ทราบว่าขณะนี้ มีเพียง พี่ สาวและ บุตรชาย 2 คน ที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ปัจจุบันมีเพียงเพื่อนร่วมรุ่น ที่คอยติดต่อและให้ความช่วยเหลือ ขณะนี้ทางเพื่อนๆได้พยายามติดต่อญาติๆเพื่อนำศพไปบำเพ็ญกุศล หากผู้ใดทราบหรือญาติๆทราบข่าว กรุณาติดต่อที่ จ.ส.อ.สุประวีณ์ บุญธิคำ โทรฯ 087- 3225027 หรือ สภ. อ.หนองแค (สาขา ต.หินกอง) จ.สระบุรีด่วน อนึ่งบริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งมากสาเหตุประการหนึ่งผู้สัญจรเส้นทางนี้ต่างให้ความเห็นตรงกันว่า หากขี่จักรยานยนต์มาถึงบริเวณดังกล่าวต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการทำลูกระนาดหรือคลื่นปูนกว้างและใหญ่มากเหมือนกับดัก รถเล็กอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายจึงขอฝากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบช่วยแก้ไขด้วยก่อนที่จะมีผู้เสียชีวิต (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว) http://www.suphaninsure.com/wizContent.asp?wizConID=61505&txtmMenu_ID=7

เปิดงานวันมะม่วงมันหนองแซงสระบุรี

จ่าสรรค์ กันตพัฒน์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองแซง จัดงานประเพณีงานสืบสานตำนานมะม่วงมันหนองแซงอย่างยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 13 -19 ก.พ.56 ณ.บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแซง จังหวัดสระบุรี เมื่อ 14 ก.พ.56 เวลา 18.00 น. ณ.บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแซงจังหวัดสระบุรี นายบัญชา เชาวรินทร์ อำเภอหนองแซงเป็นประธานเปิดงานประเพณีงานสืบสานตำนานมะม่วงมันหนองแซงประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 13 -19 ก.พ.56 มี พันจ่าอากาศเอก กันตพัฒน์ เสตะพันธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองแซง กล่าวรายงาน ตำนานมะม่วงมันหนองแซง ที่ กล่าวขานโด่งดังไปทั่วประเทศและต่างประเทศ ประชาชนจังหวัดสระบุรีและใกล้เคียงเข้าร่วมงานวันนี้ กว่า 3000 คน ณ.บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแซงจังหวัดสระบุรี พันจ่าอากาศเอก กันตพัฒน์ เสตะพันธุ์ เปิดเผยอีกว่า ในอดีต อำเภอหนองแซงเป็นแหล่งปลูกมะม่วงดีที่สุดในประเทศไทยถึงกลับบางคนเดินทางมาจากหลายๆจังหวัดเพื่อมาซื้อมะม่วงมันหนองแซงไปทานเพราะมีรสชาติหวานมัน อร่อยกว่าที่อื่น จนมีพ่อค้าบางคนมารับซื้อแบบเหมาสวนเพื่อเป็นสินค้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศมากมายจนเป็นที่กล่าวขานโด่งดังไปทั่วประเทศและต่างประเทศ การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานตำนานของมะม่วงมันหนองแซงให้คงอยู่คู่กับอำเภอหนองแซงให้นานแสนนาน ภายในงานมีการประกวดธิดามะม่วงมันหนองแซง การประกวดร้องเพลงการประกวดสาวประเภทสองการประกวดพันธ์มะม่วงมันหนองแซงการประกวดผลมะม่วงมันหนองแซง การแข่งขันตำส้มตำ พบกับสินค้าOTOP ผลิตผลการเกษตร สินค้าจากโรงงานโดยตรงมาจำหน่ายในราคาพิเศษ กว่า 5,000 รายการด้ารมหรสพได้จดศิลปินดังจากทุกค่ายเพลงวันที่ 13 ก.พ.56 พบกับมลฤดี ศรีไคล วันที่14 พบกับวิดไฮเปอร์วันที่15 จ้า ชาลินีย์ วันที่ 16 นิค นิรนาม วันที่ 17 ปั๊ม ณรงกลด วันที่18 พบกับ พลพล แบบเต็มวง แลในวันที่19 พบกับมาลีฮวนน่า สุดท้ายขอเชิญชวนพี้น้องชาวจังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มาเที่ยวชมงานานเพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบสานตำนานมะม่วงมันหนองแซงซึ่งในอดีตเป็นมะม่วงที่อร่อยที่ในประเทศไทยให้เป็นมะม่วงมันอยู่คู่หนองแซงสืบไป (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว) http://www.suphaninsure.com/wizContent.asp?wizConID=61477&txtmMenu_ID=7

วันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ชาวบ้าน 2 กลุ่มบุกศาลากลางสระบุรีร้องคัดค้านและสนับสนุน ต่ออายุประทานบัตรบริษัทปูนดัง

กลุ่มชาวบ้านหนองโอ่ง ม.10 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ประมาณ 50 คนรวมตัวกันชุมนุมศาลากลางจังหวัดสระบุรีคัดค้านการทำประชาคมหมู่บ้าน/การลงมติในการพิจารณาต่ออายุประทานบัตรของ บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง จก. (มหาชน) อ้างไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสนำบุคคลภายนอกมาเข้าร่วมประชุมลงมติ จึงมาขอความเป็นธรรมต่อ ผวจ.สระบุรีอีกกลุ่ม 20 คนสนับสนุน อ้างขอเข้าชี้แจงแต่ไม่ยอมบอกชื่อไม่มีเอกสารชี้แจง สอบถามชื่อและที่อยุ่ โบ้ยไม่ใช่แกนนำเแค่ ผู้สนับสนุน แจ้งขั้นตอนโปร่งใส ถูกกล่าวหานำคนนอกลงมติ คือสามีและลูกของผู้สนับสนุนอ้างมาชี้แจงเพราะเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่ชาวบ้านจะได้รับ
เมื่อ12 ก.พ.56 เวลา 13.00 น.ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายชรัส บุญณสะ ปลัดจังหวัดสระบุรี เป็นประธานการประชุมกลุ่มราษฎรหนองโอ่ง ม.10 ต.หน้าพระลาน อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี ประมาณ 50 คนนำโดยนายพินิจ แก้วมุขดา ผญบ.ม.10 ต.หน้าพระลานฯ ร้องคัดค้านคัดค้านการทำประชาคมหมู่บ้าน/การลงมติในการพิจารณาต่ออายุประทานบัตรของ บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง จก. (มหาชน) เนื่องจากดำเนินการไม่ถูกต้องไม่โปร่งใสปลัด อบต.รวบรัดขั้นตอน ประธานสภาฯ อบต.นำบุคคลภายนอกเข้าประชุมสภาฯ ยกมือลงคะแนนเสียงในประชามติ จะมีการประชุมเกี่ยวการทำประชาคมเพื่อพิจารณาต่ออายุประทานบัตรฯ เท่านั้นแต่กลับมีการแจ้งว่าจะมีการสร้างโรงโม่หินซึ่งพวกตนไม่เห็นด้วยเนื่องจากจะสร้างมลพิษให้กับชุมชนทั้งฝุ่นและเสียงอีกทั้งมลพิษจากรถบรรทุกหิน
ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ได้ชี้แจง เกี่ยวกับขั้นตอนของการต่อใบอนุญาตประทานบัตรให้ผู้เข้าร่วมประชุมทราบ ซึ่งในขั้นตอนของสภาองค์การบริหารส่วนตำบลนั้น เมื่อมีการลงมติเสร็จสิ้น ก็จะส่งเรื่องไปยังอำเภอหรืออุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อพิจารณาต่อใบอนุญาต ไม่จำเป็นต้องผ่านการทำประชาคม เพราะขั้นตอนของการทำประชาคมนั้น จะอยู่ในขั้นตอนของการขอใบอนุญาตฯ แล้ว แต่หากชาวบ้านมีข้อคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยประการใด สามารถทำประชาคม แล้วเสนอผ่านมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
นายชรัส บุณณสระ ปลัดจังหวัดสระบุรี ได้ชี้แจงให้ชาวบ้านทราบเกี่ยวกับการประชุมทำประชาคมหมู่บ้านว่า ผู้ใหญ่บ้านสามารถดำเนินการทำประชาคมหมู่บ้านได้ ไม่ต้องผ่านหน่วยงานใดๆแนะนำให้ดำเนินการให้ถูกต้องครบถ้วนทำประชาคมจะไม่เรียบร้อยแจ้งหน่วยงานต่างๆ อาทิ จังหวัดสระบุรี อำเภอหน้าพระลาน หรือจะแจ้งกับ จนท.ตร. เพื่อไปสังเกตการณ์และดูแลความสงบเรียบร้อย
นายพินิจฯ ผู้ใหญ่บ้านหมู่10 จึงได้ขอมติจากชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุม ในการทำประชาคมหมู่บ้านครั้งใหม่ ซึ่งกลุ่มชาวบ้าน เห็นด้วย นายพินิจฯ จึงรับจะไปดำเนินการในขั้นตอนต่อไป กลุ่มชาวบ้านได้ยุติชุมนุมในเวลา 14.15 น.
ต่อมาเวลา14.25 น.กลุ่มชาวบ้านประมาณ 20 คน ที่เห็นด้วยกับการลงมติให้พิจารณาต่ออายุประทานบัตรของ บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง จก. (มหาชน) เข้าชี้แจงต่อผู้ชี้แจงต่อปลัดจังหวัดสระบุรีผู้ชี้แจงไม่ให้รายละเอียดแม้กระทั้งซื่อของตนเพียงอ้างว่าตนอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 92/1 หมู่10 ในรัศมี 500 เมตร แต่อ้างว่านางนิกร เหล่าลาภะ และนายเฉลิม ตามสกุล อดีต กำนัน ต.หน้าพระลาน เป็นผู้นำในครั้งนี้ และได้แจ้งว่า การเดินทางมายังศาลากลางจังหวัดสระบุรีฯ ในครั้งนี้ เกิดจากความไม่เข้าใจกันของชาวบ้าน คนนอกที่ถูกกล่าวถึงกรณีประธานสภาฯ อนุญาตให้เข้าประชุมการทำลงมตินั้น เป็นบุคคลในครอบครัว อาทิ สามี ภรรยา ของผู้มีสิทธิออกเสียงการลงมติกลุ่มของตนและได้ยื่นข้อกำหนดให้กับโรงโม่ (บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง จก.)การรับบุตรหลานหรือชาวบ้านในพื้นที่เข้าทำงานในบริษัทฯ กองทุนหมู่บ้านที่บริษัทจะมอบให้ ปีละ 1 ล้านบาทให้บริษัทฯการดำเนินการแก้ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองและให้แพทย์ตรวจรักษาหากมีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งเป็นผลประโยชน์ที่ดีที่ชาวบ้านจะได้รับจากโรงโม่ (บ.ปูนซีเมนต์นครหลวง จก.)ดังกล่าว
ผู้แทนอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ได้มีหนังสือชี้แจงเกี่ยวกับการคัดค้านการทำประชาคมหมู่บ้านดังกล่าว บริษัทฯ ยังมิได้ดำเนินการยื่นคำขอประกอบกิจการโรงโม่ บด ย่อยหิน กับทางสำนักงานอุตสาหกรรมแต่อย่างใด (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

สระบุรี ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ รวมใจภักดิ์รักในหลวง 86พรรษา

สภ. อ.เฉลิมพระเกียรติ สระบุรี ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ รวมใจภักดิ์รักในหลวง 86พรรษา พ.ต.อ.นรงค์ แสวงจิตร์ ผกก.สภ.อำเภอเฉลิมพระเกียรติ สระบุรีจัดโครงการปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ รวมใจภักดิ์รักในหลวง 86 พรรษา เพื่อหาทุนสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันนักเรียนยากจน ในเขตอ.เฉลิมพระเกียรติ อ.แก่งคอย มี น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย สส.สระบุรี เขต 1 เป็นประธานในพิธีโดยมี พ.ต.ท.วิเชียร จับบาง รอง ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ กล่าวรายงาน มี น.ส.รุ่งลาวัลย์ มาแก้ว สจ. อ.เฉลิมพระเกียรติ เขต 2 เข้าร่วมงานพร้อม ประชาชน ชมรมจักรยานเข้าร่วม 350 คน 350 คัน บริเวณ.หน้า สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.สระบุรี
เมื่อ 10 ก.พ.56 เวลา 09.30 น.น.ส.กัลยา รุ่งวิจิตรชัย ส.ส.สระบุรี เขต 1 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ รวมใจภักดิ์รักในหลวง 86 พรรษา ดำเนินโครงการโดย พ.ต.อ.นรงค์ แสวงจิตร์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาทุนสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันนักเรียนยากจน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุ 86 พรรษา
พ.ต.อ.นรงค์ แสวงจิตร์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติ เปิดเผยว่า ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระชนมายุ 86พรรษาในปีนี้ สภ.เฉลิมพระเกียรติได้ร่วมกับสโมสรโรตารี่เฉลิมพระเกียรติและชมรมจักรยานอ.เฉลิมพระเกียรติ จัดโครงการปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติรวมใจภักดิ์รักในหลวง 86 พรรษาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่ทรงมีพระชนมายุ 86 พรรษาและอำเภอเฉลิมพระเกียรติได้ก่อตั้งมานาน เพื่อหาทุนสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันนักเรียนยากจน16 ปี ด้วยพระบารมีในหลวงซึ่งมีโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ เพื่อส่งเสริมสุขภาพประชาชนด้วยการขี่จักรยาน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดสระบุรีและเพื่อหาทุนสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันนักเรียนยากจนในเขตอ.เฉลิมพระเกียรติ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก น.ส.กัลยารุ่งวิจิตรชัย สส.สระบุรี เขต 1 บ.คาร์กิลล์มีทส์ (ไทยแลนด์)จำกัด ห้างสรรพสินค้าสุขอนันต์ปาร์ค บ.ทีพีไอโพลีน จำกัด มหาชน บ.กิติชัยเทรดดิ้ง จำกัดโดยใช้ เส้นทางปั่นจากหน้า สภ.เฉลิมพระเกียรติ ไปวัดมงคลชัยพัฒนา ผ่านโครงการเกษตรทฤษฏีใหม่ ผ่านอ่างเก็บน้ำห้วยหินขาวโครงการพระราชดำริ และปั่นไปทางโรงเรียนวัดบ่อโศรก โรงเรียนวัดพระพุทธบาทน้อย มีกิจกรรมมอบทุนอาหารกลางวันให้แก่ทางโรงเรียนวัดพระพุทธบาทน้อย โรงเรียนวัดบ่อโศรก ต่อจากนั้นขี่ผ่านมาทางโรงเรียนวัดลาดเขาปูนมอบทุนอาหารกลางวันแก่ทางโรงเรียนและปั่นกลับ สภ.เฉลิมพระเกียรติผู้ร่วมกิจกรรมไม่ต้องเสียค่าสมัครแต่อย่างใดและจะได้รับเสื้อที่ระลึก 1 ตัวพร้อมอาหารกลางวันผู้ร่วมกิจกรรมสามารถบริจาคเงินสมทบโครงการอาหารกลางวันนักเรียนโดยการบริจาคใส่กล่องที่ผู้จัดเตรียมไว้ให้และจะนำเงืนบริจาคทั้งหมดมอบให้โรงเรียน 3 แห่งที่คณะจักรยานผ่าน การรักษาความปลอดภัยได้หมอบหมายให้ พ.ต.ท.วิเชียรจับบาง รองผกก.ปฯ ,พ.ต.ท.เผชิญสมานวงศ์ สวป. สภ.เฉลิมพระเกียรติดูแลนักปั่นตลอดเส้นทางการขี่โดย พ.ต.อ.นรงค์ แสวงจิตร์ ผกก.สภ.เฉลิมพระเกียรติจะร่วมปั่นด้วยตลอดเส้นทาง
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว) http://www.suphaninsure.com/wizContent.asp?wizConID=61376&txtmMenu_ID=7