วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

จทบ.สระบุรี จัดพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาฯ

พิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาของทหารกองประจำการ หน่วยทหารพื้นที่ จ.สระบุรี จังหวัดทหารบกจังหวัดสระบุรี(จทบ.สบ.) จัดพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาให้กับทหารกองประจำการพื้นที่ จ. สระบุรี โดยมี พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ.สบ.เป็นประธานในพิธีพร้อมกับพบปะให้โอวาท ให้กับกำลังพล โดย มี ผบ.หน่วยทหาร ในพื้นที่ จังหวัดสระบุรีให้การต้อนรับ ณ.ลานพื้นแข็งจังหวัดทหารบกสระบุรี
เมื่อ 29เม.ย.57 เวลา 09.00 น. พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ.สบ.พร้อมคณะเดินทางเป็นประธานในพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาของทหารกองประจำการ (พื้นที่ จ. สระบุรี) มี หน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดสระบุรีประกอบด้วย หน่วยขึ้นตรง(นขต.) จังหวัดทหารบกสระบุรี ,ศูนย์การทหารม้าและนขต. กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พื้นที่จังหวัดสระบุรี) จำนวน 10 กองพัน กำลังพลจำนวน 1092 นาย ผู้แทนทหารกองประจำการ ประจำปี 2555 ผลัดที่ 1 ได้กล่าวนำปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล โดย มี พ.ท.นัฐภูมิ หลาวทอง. เป็น ผบ.กองผสม
พลตรีวิบูลย์พงศ์ อินทะพงษ์ ผบ.จทบ.สบ.กล่าวให้โอวาทว่า เพื่อนทหารทั้งหลายได้มารับราชการตามพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการรับราชการทหาร จนครบกำหนดและจะพ้นหน้าที่ในกองประจำการตั้งแต่ 1 พ.ค.57 นี้ นับว่าเป็นการเสียสละอย่างสูงสุดของลูกผู้ชายที่ได้รับใช้แผ่นดินอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตน ซึ่งน้อยคนนักจะได้มีโอกาสปฏิบัติหน้าที่นี้เยี่ยงท่านนับเป็นเกียรติประวัติที่น่าภูมิใจ แก่ตนเองเป็นอย่างยิ่ง การประกอบพิธี สวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพลและผู้บังคับบัญชาในวันนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อให้เพื่อนทหารทั้งหลายได้มีโอกาสกล่าวคำอำลาผู้บังคับบัญชาต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล อันเป็นสัญลักษณ์ของชาติที่มีเอกราชและอธิปไตยมาช้านานเป็นหลักชัยของกองทัพอีกทั้งเพื่อเตือนระลึกถึงอดีตว่า บรรพบุรุษของเราได้สร้างวีรกรรม เอาเลือดเนื้อ ชีวิตและความลำบากยากเข็ญ เข้าแลกเอาไว้ เพื่อให้แผ่นดินนี้เป็นมรดกตกทอดถึงลูกหลานไทยจนถึงทุกวันนี้ จึงเป็นหน้าที่ ที่พวกเราทุกคนจะต้องรักษาแผ่นดินนี้ต่อไปชั่ว นิรันดร์ พึงระลึกเสมอว่าภาระหน้าที่ในการรับใช้ชาติ มิได้หมดสิ้นไปในฐานะทหาร หากประเทศจำเป็นที่ต้องเกิดศึกสงคราม ในฐานะทหารกองหนุนจะต้องกับมารับใช้ชาติอีก จงนำความรู้และประสบการณ์ที่ดี นำไปเป็นประโยชน์ต่อครอบครัวและสังคม ประพฤติตนตามหน้าที่ เป็นแบบอย่างที่ดีของประชาชน เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณธรรม ประกอบอาชีพสุจริต และยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำตนให้สมกับที่ได้กล่าวปฏิญาณตนต่อหน้าธงชัยเฉลิมพล
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

4 หน่วยงานด้านพิทักษ์ป่าฯ นำหมายศาลบุกตรวจค้นบ้าน ผอ.รร.ดัง สระบุรี

4 หน่วยงานด้านพิทักษ์ทรัพยากรป่าไม้ประสานงานนำหมายศาล บุกตรวจค้นบ้าน ผอ.โรงเรียนดัง ผู้ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่น จังหวัดสระบุรี ปี 57
กอ.รมน.บูรณาการ หน่วยงาน สนง.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 พร้อมส่วนยุทธการ กรมป่าไม้ และ ตำรวจ.สภ.มวกเหล็กนำหมายศาลบุกค้นบ้าน ผอ.โรงเรียนดัง เจ้าของรางวัลข้าราชการดีเด่นสระบุรี ปี 57 พบเป็นโรงงานแปรรูปไม้ขนาดย่อมพบท่อนซุงขนาดใหญ่ไม้แปรรูปอีกเป็นจำนวนมากเจ้าตัวอ้างมีหลักฐาน การได้มาไม้ของกลาง เจ้าหน้าที่ขอตรวจยึดไว้ ตรวจสอบพบร่องรอย พยายามซุกขี้เลื้อย ไม้แปรรูป อุปกรณ์ คาดทำการแปรรูปไม้มานานแล้ว หลังสายตรวจชุดเฝ้าติดตาม การลักลอบตัดไม้ ของกรมป่าไม้ รายงานพบบ้านต้องสงสัยจึงได้มีการบูรณาการหน่วยงานเข้าตรวจสอบ
เมื่อ 21 เม.ย. 57 เวลา15.30 น.พลโทคณิต อุทิตสาร. ผอ.ศปป 4. กอ.รมน พ.อ.พงษ์ศิลป์ สถิตขราณีย์ หัวหน้ากลุ่มงานข่าว.กอ.รมน.สบ.ร่วมกับ นายเฉลิมเกียรติ สุดสาคร. ผอ.ส่วนยุทธการกรมป่าไม้ นายมังกร เมี้ยนมิตร ผอ.ป้องกันและรักษาป่า นายสมเนตร สว่าง หน.หน่วยพิทักษ์ทัพยากรป่าไม้ (สบ.2 ลำพญากลาง) สนง.จัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 5 นายยุทธศาสตร์ กุลวรรณ. สายตรวจสายที่ 2. พ.ต.ท.ขจรชัย บุญโถ สว.สส.สภ.มวกเหล็ก. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 30 คน นำหมายศาลเข้าขอตรวจค้นบ้านเลขที่ 54 หมู่ 4 .ต.มิตรภาพ.อ.มวกเหล็ก. จ.สระบุรี ของนายสุรศักดิ์ วาดเขียน.ผอ.โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 68 (วัดเหวลาด) ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี ยังเป็นผู้ที่ได้รับรางวัลข้าราชการดีเด่น จังหวัดสระบุรี เมื่อ 1 เม.ย.57 ที่ผ่านมา
โดยนายสุรศักดิ์ วาดเขียน ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่โดยดี แต่มีหญิงวัยกลางคนเดินติดตามถ่ายภาพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ต่อเนื่อง หลังเข้าตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ภายในมีรั้วสูงปิดบังสายตาจากภายนอก เนื้อที่ประมาณ 14 ไร่ มีการประกอบกิจการแยกชิ้นส่วนเหล็กอุปกรณ์รถยนต์ รีไซเคิล พบคนงานกำลังก่อสร้างบ้านหลังใหญ่โดยมีการใช้ท่อซุง ขนาดใหญ่ทำเสาบ้านหลังดังกล่าว ยังพบไม้เป็นท่อนซุงและกองท่อนไม้ประดู่ ไม้สัก และไม้อื่นๆอีกพร้อมกับพบไม้สักไม้ประดู่แปรรูป ปลีกไม้ สภาพพึ่งได้รับการแปรรูปใหม่ๆวางอยู่ทั่วบริเวณ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยการเลื้อยไม้และ จำนวนขี้เลื้อย เทียบเท่าขนาดโรงงานแปรรูปไม้ขนาดย่อมๆ พร้อมร่องรอยการขนย้าย ขยะรีไซเคิลและถัง 200 ลิตร นำมากลบเกลื่อนจำนวนขี้เลื้อย ร่องรอยใหม่ๆอย่างเห็นได้ชัด บริเวณใต้กองถัง 200 ลิตร ยังพบท่อนไม้ขนาดใหญ่ อีกทั้งภายในตู้คอนเทนเนอร์ ที่วางเรียงรายรอบๆ พบไม้สักไม้ประดู่ แปรรูป อีกเป็นจำนวนมาก
นายสุรศักดิ์ให้การ เบื้องต้นว่า เป็นไม้ที่ซื้อมาอย่างถูกต้อง มีเอกสารรองรับ แต่โดยสภาพแวดล้อมเจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ จึงขอตรวจสอบหลักฐานอายัดยึดของกลางไว้ตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

โครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ รุ่นที่21 จ.สระบุรี

นายอารีย์ วงศ์อารยะ ตรวจเยี่ยมครอบครัวอุปถัมภ์โครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ จังหวัดสระบุรี โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ให้การต้อนรับ พร้อมได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเยาวชนที่พักอาศัยในครอบครัวจังหวัดสระบุรี 10 ครอบครัว
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 นายอารีย์ วงศ์อารยะ ตรวจเยี่ยมครอบครัวอุปถัมภ์โครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ จังหวัดสระบุรี โดยมี นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีและส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ให้การต้อนรับ พร้อมได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมเยาวชนที่พักอาศัยในครอบครัวจังหวัดสระบุรี 10 ครอบครัว ซึ่งเป็นมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมนำเยาวชนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้แก่ จังหวัดยะลา นาราธิวาส ปัตตานี สงขลา และสตูล ให้มาใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ในภาคกลางเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ในครือข่ายครอบครัวสู่ความสมานฉันในสังคมไทยศึกษาเรียนรู้สร้างโอกาสให้แก่เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและหาประสบการณ์ชีวิตเพื่อปฏิบัติตนเป็นผู้นำของชุมชนในอนาคตสำหรับจังหวัดสระบุรีได้ทำโครงการมาแล้ว 17 รุ่น รวมทั้งสิ้น 317 คน ได้รับความอนุเคราะห์จากครอบครัวอุปถัมภ์ในเขตพื้นที่อำเภอวิหารแดง หนองแค มวกเหล็กและอำเภอเมืองสระบุรี สำหรับรุ่นที่ 21 มีจำนวน 20 คน เป็นชาย 10คน หญิง 10 คน เริ่มมาพักตั้งวันที่ 10 เมษายน 2557 ถึง 25 เมษายน 2557 เป็นระยะเวลา 15 วัน 15 คืนโดยมีหน่วยงานภาครัฐฯและภาคเอกชนประชาชนชาวสระบุรีให้ความสำคัญสนับสนุนตามโครงการเป็นอย่างดีและดูแลคณะเยาวชนพร้อมครอบครัวอุปถัมภ์อย่างใกล้ชิดต่อเนื่องตลอดโครงการ
ทีมข่าวเฉพาะกิจ นสพ.พลังชน จ.สระบุรี

ผอ.ศปป.4 กอ.รมน.ตรวจสอบความคืบหน้าการจับกุมไม้พยุง ล็อตใหญ่

ผอ.ศปป.4 กอ.รมน. ลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าการจับกุมไม้พยุง ล็อตใหญ่ มูลค่ากว่า200 ล้านบาท
ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (ผอ.ศปป.4 กอ.รมน.)ลงพื้นที่จ.สระบุรี ตรวจสอบและติดตามความคืบหน้าคดีการจับกุมกลุ่มขบวนการค้าไม้พยุงและการบุกรุกป่าสงวนและการทำลายทรัพยากรของชาติจากผลการดำเนินการด้านการบูรณาการของ กอ.รมน.สบ.ในเขต อ.มวกเหล็ก.พร้อมทั้งกำชับให้ติดตามความก้าวหน้าของหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อป้องกันการวิ่งเต้นล้มคดีของกลุ่มนายทุนและกลุ่มข้าราชการบางกลุ่ม
เมื่อ 21 เม.ย. 57 เวลา 10.30 น. พลโทคณิต อุทิตสาร ศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 4 กอ.รมน (ผอ.ศปป.4.กอ.รมน.)ลงพื้นที่ หมู่ 14 ต.ซับสนุน อ.มวกเหล็กจังหวัดสระบุรี เข้าตรวจสอบความคืบหน้าการดำเนินการกับขบวนการค้าไม้ต้องห้าม(พยุง)หลังเข้าตรวจยึด เมื่อ 20 เม.ย.57 โดยมี พ.อ.พงษ์ศิลป์ สถิตขราณีย์ หัวหน้ากลุ่มงานข่าว.กอ.รมน.สบ.พ.อ.บัญญัติ อารีพงษ์ หน.กลุ่มงานยุทธศาสตร์ กอ.รมน.สบ ให้การต้อนรับ.
สำหรับความคืบหน้าดำเนินการกับขบวนการค้าไม้ต้องห้าม(พยุง) พบว่าบริเวณหมู่14 ต.ซับสนุ่น มีหน่วยงานสำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่5 (สระบุรี)โดยนายมังกร เมี้ยนมิตร ผอ.ป้องกันและรักษาป่า นายสมเนตร สว่าง หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่า(สบ.2 ลำพญากลาง)กำลังดำเนินการนำเจ้าหน้าที่ เข้าตรวจสอบวัตรจำนวนปริมาณไม้พยุงที่ได้อายัดตรวจยึดไว้ จำนวนต้น 32 ต้นและอีกจำนวน 74 ท่อน ส่วนความคืบหน้าของการดำเนินคดีกับนาย จำรัส วงศ์จิ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีเพื่อขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการ ที่ สภ.มวกเหล็ก ทราบว่าได้มีการประกันตัวออกไปแล้ว จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพิ้นที่และความคืบหน้าคดี พื้นที่ 107 ไร่บริเวณหมู่ 4 ตำบลมวกเหล็ก ที่อยู่ ระหว่างดำเนินคดีกับนายทุนที่บุกรุก ตามขั้นตอนของกฎหมาย และอื่นๆพร้อมได้กำชับให้กอ.รมน.สบ.ติดตามคดีอย่างต่อเนื่องต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

กอ.รมน.สบ.เปิดการฝึก อพป.จ.สระบุรี

เมื่อ 21 เม.ย.57 เวลา09.00 น. พ.อ.(พิเศษ)รังสรรค์ ยิ้มสู้ รองผอ.กอ.รมน.สบ.เป็นประธาน เปิดฝึกอบรมจัดตั้งและทบทวน การฝึก สมาชิกไทยอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.)ครั้งที่2 ปี2557.บ้านโคกกระชาย โดยมี พ.อ.พงษ์ศิลป์ สถิตย์ขราณี หน.กลุ่มงานข่าว.กอ.รมน.สบ.พ.อ.บัญญัติ อารีพงษ์ หน.กลุ่มงานยุทธศาสตร์ กอ.รมน.สบ. นายณัฐพล สงวนนาม ปลัดป้องกัน นายกมล มงกุฎ ปลัด อำเภอแก่งคอย นายพันธ์ชาย ลักขณาปลัดอำเภอบ้านหมอ นายประดับ พรประสิทธิ์ กำนันตำบลชะอม นายพยุง เชียงของ นายก อบต.ชะอม คณะครูฝึก และสมาชิก อ.พ.ป.จำนวน 40 นาย ให้การต้อนรับ ณ.วัดคลองไผ่ หมู่ ที่ 7ต.ชะอม อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
โครงการ อพป. ได้เป็นส่วนสำคัญ ในการทำให้สถานการณ์บ้านเมืองกลับเข้าสู่สภาวะปกติ มีความสุข ความปลอดภัย เป็นที่อบอุ่นไปทั่วทุกแห่งหนไม่ว่าชนบทใกล้-ไกล เพราะราษฎรเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการให้ความร่วมมืออย่างเต็มภาคภูมิ เพื่อให้ ราษฎรสามารถจัดตั้งคณะกรรมการกลางบริหารหมู่บ้าน อพป. ได้ตาม พ.ร.บ.ฯ หมู่บ้าน อพป.สามารถจัดตั้งชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรป.) ปฏิบัติงานได้อย่างเป็นระบบ ยกระดับรายได้ของประชากร ให้พออยู่พอกินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง จัดตั้งกองกำลังประชาชนสร้างเครือข่ายการข่าว แจ้งเตือนภัยหมู่บ้าน เกษตรกรมีความเข้าใจ การเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามแนวพระราชดำริฯ หมู่บ้าน อพป. เป็นชุมชนเข้มแข็ง ปลอดยาเสพติด
ปัจจุบันหมู่บ้าน อพป. ที่จัดตั้งขึ้นทั่วประเทศ มีจำนวนร่วม 2 หมื่นหมู่บ้าน ใน 59 จังหวัด สำหรับในพื้นที่ภาคอีสาน มีจำนวน 3,928 หมู่บ้าน การดำเนินงานของแต่ ละภาคทั้ง 4 ภาค มีศูนย์อาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง ของ กอ.รมน. แต่ละภาคเป็นหน่วยรับผิดชอบ มีภารกิจในการวางแผนอำนวยการ ประสานงานและกำกับดูแลเกี่ยวกับการดำเนินงานตามโครงการ อพป.ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างมีประสิทธิภาพ
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว