สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด ทำพิธี เปิดโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มUHTรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางเป็นประธาน มีนายพุทธิพงศ์ เจนจิตรศิลป์ ประธานกรรมการ สหกรณ์โคนมมวกเหล็ก จำกัด กล่าวรายงาน นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมคณะหน.ส่วนราชการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกรรมการและ สมาชิกสหกรณ์โคนม อ.มวกเหล็ก ให้การต้อนรับ ณ.สหกรณ์โคนม อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
เมื่อ 21 มี.ค.56 เวลา 10.30 น. นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาเป็นประธาน เปิดโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม UHT พร้อมคณะนางนารีณัฐ รุณภัย ผู้ตรวจราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีการจัดการแสดง ของเด็กนักเรียน และการออก บูธ สาธิต กิจกรรมของสหกรณ์ในธุรกิจ ที่ได้ดำเนินการ พร้อมกับ นำคณะเข้าเยี่ยมชม โรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นม พร้อมดื่ม ระบบพาสUHT ก่อนเดินทางกลับ
นายพุทธิพงศ์ กล่าว่า สหกรณ์โคนมมวกเหล็กจำกัดจัดตั้งขึ้น เมื่อ 28 ส.ค.15 มีสมาชิกแรกตั้ง 48 คนเดิมได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ผู้เลี้ยงโคนมมวกเหล็ก จำกัด ประเภทสหกรณ์การขาย ต่อมาปี 2526 ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อเป็น สหกรณ์มวกเหล็ก จำกัด ประเภท สหกรณ์การเกษตรนับได้ว่าก่อตั้ง มาแล้ว 40 ปีในระหว่างปี สหกรณ์ได้เอื้อประโยชน์ต่อการเลี้ยงโคนมของสมาชิกในรอบปี 2555 ได้ดำเนินธุรกิจ สินเชื่อสหกรณ์ ธุรกิจจัดหาสินค้ามาจำหน่ายทั้งเครื่องอุปโภค บริโภค น้ำมันเชื่อเพลิง ธุรกิจรวบรวมผลผลิตน้ำนมดิบ ธุรกิจผลิตอาหารสัตว์สำเร็จรูป ธุรกิจส่งเสริมและเผยแพร่การเกษตร จัดบริการทางด้าน สัตวแพทย์ ผสมเทียม ธุรกิจไซโลผลิตข้าวโพดหมัก ธุรกิจโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่ม ระบบพาสเจอร์ไรส์ มีรายได้รวม 1,287 ล้านบาท การดำเนินการก่อสร้างโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมพร้อมดื่มUHT งบประมาณ126 ล้านบาทโดยได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมจาก กรมส่งเสริมสหกรณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำนวน 90 ล้านบาท จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร จำนวน30 ล้านบาท และสหกรณ์สมทบอีกจำนวน 6 ล้านบาท ซึ่งโรงงานแห่งนี้จะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม ทั้งภาคกลางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการลดต้นทุนเพิ่มรายได้ และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล ส่งเสริมการเลี้ยงโคนม โครงการอาหารเสริม(นม)โรงเรียนเตรียมรองรับตลาดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในอีก 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้อาชีพการเลี้ยงโคนมในเมืองไทยมั่นคงตลอดไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น