ตร.สระบุรีรวบแจ๊ค/โจ๊คสองพี่น้องทีมสังหาร”หรั่ง หนองเสือ”

ทีมสืบ ตร.สระบุรีรวบแจ๊ค/โจ๊คสองพี่น้องทีมสังหาร”หรั่ง หนองเสือ” รับนำอาวุธปืน.ให้ทีมสังหารไปลั่นไก

จากกรณีที่ นายจักรกิจ จันทร์เกษมสุข หรือ หรั่งหนองเสือ ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามถล่มเสียชีวิตคารถยนต์ ปิคอัพโตโยต้า วีโก้สีดำ ทะเบียน กค-2517 นครพนม ริมถนนบายพาสเลี่ยงเมืองสระบุรี ตรงหลัก ก.ม.ที่ 23 ม.2 ต.กุดนกเปล้า อ.เมือง จ.สระบุรี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายอาจถูกลวงมาฆ่า เพราะประวัติเดิมเคยก่อเหตุโจรกรรมรถยนต์ แต่ภายหลังหันมาพัวพันกับขบวนค้ายาเสพติดเหตุเกิดกลางดึกคืนวันที่ 22 พ.ค.2556 มีผู้พบศพ เช้าวันที่ 23 พ.ค.2556 ที่ผ่านมา

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 มิ.ย.2556 พล.ต.ต.ชลิต ปรีชาหาญ ผบก.ภ.สระบุรี พ.ต.อ.พงษ์พันธ์ วงษ์มณีเทศ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี พ.ต.ท.ไพโรจน์ ตีรโสภณ รอง ผกก.สส. พร้อมชุดสืบสวน ภ.จว.สระบุรี ร่วมกันคุมตัวนายชวลิต ศรีสุวรรณ (แจ๊ค) อายุ 32 ปี และนายพิศิษฏ์ ศรีสุวรรณ (โจ๊ก) อายุ 25 ปี น้องชาย อยู่บ้านเลขที่134/3 ม.8 ต.พระพุทธบาท อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่น (นายจักรกิจ จันทร์เกษมสุข) ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าในวันเกิดเหตุ ตนสองพี่น้องได้รับคำสั่งจากผู้บงการที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งในแถบภาคกลาง ให้ขับรถยนต์ปิคอัพอีซูซุดีแมคสีดำทะเบียน ฒผ-3364 กท. ไปนำอาวุธปืน (อาก้า) ที่มีผู้นำไปซุกซ่อนไว้ที่พุ่มไม้ข้างทางริมถนนบายพาสด้านทิศเหนือ (สระบุรี-ราชสีมา) ท้องที่ ต.ตะกุด อ.เมืองสระบุรี แล้วนำกลับมาเก็บไว้ที่บ้านพระพุทธบาท จนกระทั่งค่ำวันเดียวกัน จึงได้รับคำสั่งจากผู้บงการให้นำอาวุธไปให้มือปืนยังจุดนัดหมาย

โดยผู้ต้องหาทั้งสองรับว่า จากนั้นนายชวลิต ขับรถยนต์ปิคอัพดีแมค ส่วนนายพิศิษฏ์ ขับรถยนต์เก๋งโตโยต้า ยาริส สีแดงทะเบียน กน.3687 นครราชสีมา พร้อมนำอาวุธปืนอาก้าไปกับรถเก๋งเมื่อถึงจุดนัดหมายภายในปั๊มน้ำมัน ป.ต.ท.ห่างที่เกิดเหตุราว 2 ก.ม. ทีมมือปืนเดินทางมาด้วยรถยนต์เก๋งสีเทา รวม 3 คนเปลี่ยนมาขึ้นรถยนต์เก๋งยาริส พร้อมอาวุธปืน ออกจากปั๊มไป โดยให้นายพิศิษฏ์ มาขึ้นรถนายชวลิตแทน ซึ่งผู้บงการ อ้างว่าได้โทรศัพท์หลอกให้ นายจักรกิจ ผู้ตายมารับยาเสพติดตรงจุดเกิดเหตุ ซึ่ง ตนสองคนพี่น้องรอเวลา ให้กลุ่มมือปืนไปก่อเหตุจึงได้เลี้ยวรถกลับไปนั่งรอที่ร้านลาบ ริมถนนในย่านนั้น จนกระทั่งกลุ่มมือปืนปฏิบัติการยิงนายจักรกิจ เสร็จเรียบร้อยแล้วจึงโทรศัพท์ ให้ตนไปรับ รถเก๋งยาริส คืนที่บริเวณริมถนนพหลโยธินฝั่งเข้า กท. ห่างจุดเกิดเหตุราว 5 กม. โดยให้นำปลอกกระสุนปืนอาก้าไปทิ้งด้วย นายพิศิษฐ์ ได้นำปลอกกระสุนปืนดังกล่าวไปทิ้งที่บริเวณใกล้ทางเข้าวัดร่องแซง ในเขต ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ส่วนกลุ่มมือปืนได้พากันขึ้นรถยนต์เก๋งสีเทาคันเดิมพร้อมอาวุธปืนอาก้าที่ใช้ก่อเหตุ แยกย้ายกันหลบหนีจนกระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองไปทำแผนฯตามคำรับสารภาพอย่างละเอียดทุกจุดจากนั้นนำตัวส่ง ร.ต.อ.กฤษฏ์ ชวนดี ร้อยเวรเจ้าของคดี ส่วนกลุ่มมือปืนที่เหลือพร้อมผู้บงการจะได้เร่งติดตามจับกุมต่อไป.

(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)