วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
แถลงข่าว งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน
จังหวัดสระบุรีจัดแถลงข่าว งานหนึ่งเดียวในโลก “งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทาน” วัด พระพุทธบาท ประจำปี 2556
ผู้ว่าฯสระบุรี ร่วมกับ นายเฉลิมวงษ์ไพร นายก อบจ.สระบุรี, นายชนัตถ์ นันทปัญญา รองนายกเทศมนตรีเมืองพระพุทธบาท, นางสุณี นิโรจศิล นายกสมาคมการท่องเที่ยวสระบุรี ,นายสุรีย์ สุขกรรม ประชาสัมพันธ์จังหวัดสระบุรี พร้อมผู้แทน สภ.เมืองพระพุทธบาท ร่วมแถลงข่าวประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทานประจำปี 2556 ณ.วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี
เมื่อเช้านี้ 4 ก.ค.56 เวลา 09.30 น. นายถาวร พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธาน งานการแถลงข่าว งานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและถวายเทียนพระราชทานประจำปี 2556 งานประเพณีหนึ่งเดียวในโลก พร้อม ผู้ร่วมงานร่วมกันแต่งชุดประจำชาติอาเซียนอย่างสวยงาม
สาระสำคัญของการแถลงข่าว เพื่อบอกกล่าวให้ชาวไทยได้ทราบ ได้รู้จักงานประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนาของชาวสระบุรี กับงานประเพณีตักบาตรดอกเข้าพรรษาและประเพณีล้างเท้าพระ ณ. ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร กำหนดงานเริ่มวันที่ 21 – 23 กรกฎาคม 2556 โดยกำหนดพิธีเปิดงานในวันที่ 21 กรกฎาคม 2556 เวลา 15.00 น. จัดให้มีขบวนพยุหยาตรา ขบวนเจ้าเมืองสระบุรี ขบวนรถบุปผชาติ และขบวนเทียนพรรษาพระราชทาน และขบวนวัฒนธรรมจาก 13 อำเภอ การตักบาตรดอกเข้าพรรษา การล้างเท้าพระและกิจกรรมถวายเทียนพระราชทาน วันเปิดงาน 21 กรกฎาคม 2556 เวลา 06.00 น. จัดให้มีพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 3,000 รูป ตลอดงานจัดให้มีการตักบาตรดอกเข้าพรรษาและล้างเท้าพระตั้งแต่เวลา 09.00 น. วันละ 2 รอบ
สำหรับประวัติดอกเข้าพรรษาที่มาของประเพณี ตามตำนานกล่าวไว้ว่าในสมัยโบราณนั้นพุทธศาสนิกชน มาทำบุญตักบาตรในวันพระขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 และนิยมทำบุญตักบาตรที่ วัดพระพุทธบาทแห่งนี้ เป็นระยะเวลารวม 3 วัน หากปีใดเป็นปีที่มีเดือน 8 สองหน จะถือเอาเดือน 8 หลัง แล้วไปทำบุญตักบาตรเข้าพรรษา 3 วัน และวันขึ้น 15 ค่ำเพ็ญกลางเดือน 8 ชาวบ้านในสมัยนั้น ช่วงเช้า จะนำอาหารคาว-หวาน ไปทำบุญตักบาตรที่ วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร หลังจากทำบุญตักบาตรเสร็จแล้ว บรรดาหนุ่มๆสาวๆ จำนวนมากจะพากันเดินขึ้นไปบนภูเขา "โพธิ์ลังกา และภูเขาพุกร่าง "ภูเขาที่อยู่ในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท เพื่อหาดอกไม้ชนิดหนึ่ง ชื่อดอกเข้าพรรษา จากนั้นจะนำมาจัดมัดเป็นกำๆพร้อมเสียบดอกไม้ธูปเทียนเตรียมใส่บาตรในวันรุ่งขึ้น คืนวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา พระภิกษุสงฆ์รับบิณฑบาตแล้วนำเอาดอกไม้ขึ้นไปบูชา "รอยพระพุทธบาท” เมื่อเดินลงกลับมาอีกทางหนึ่ง พุทธศาสนิกชนจะนำน้ำสะอาดใส่ภาชนะไปล้างเท้าพระสงฆ์ และพระสงฆ์จะเข้า พระอุโบสถ ปวารณาตลอดไตรมาส 3 เดือน
ดอกเข้าพรรษาเป็นดอกไม้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ มีเฉพาะในพื้นที่อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี มีชื่อเรียกตามศัพท์ของพรรณไม้เรียกว่า ดอกหงส์เหิน จะมีสีม่วงและสีขาว ส่วนดอกสีเหลือง ชื่อดอกพวงทอง จะมีลำต้นคล้ายต้นข่าหรือต้นกระชายสูงประมาณ 1 ฟุต มีหัวอยู่ใต้ดินคล้ายหัวกระชายอีกเช่นกัน หลังเทศกาลเข้าพรรษาลำต้นจะโทรมลงเหี่ยวแห้งไปในที่สุด แต่ชาวบ้านเรียกกัน ติดปากมาแต่สมัยโบราณว่า "ดอกเข้าพรรษา” นอกจากนี้ ยังออกดอกเฉพาะในช่วงเวลาใกล้เข้าพรรษาเท่านั้น ปัจจุบันดอกเข้าพรรษาตามธรรมชาตินั้นมีจำนวนลดน้อยลง อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงจากสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศ รวมถึงความต้องการของประชาชนชาวพุทธที่นิยมนำไปตักบาตรดอกไม้ในช่วงก่อนเข้าพรรษา ซึ่งเป็นประเพณีสำคัญของชาวสระบุรี ที่ทุกท่านไม่ควรพลาด "ครั้งหนึ่งในชีวิต ต้องตักบาตรดอกเข้าพรรษา ที่วัดพระพุทธบาท ราชวรมหาวิหาร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต สืบไป”
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น