วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2557

ฆ่าโหดสาวใหญ่แฝดพี่ ล่ากิ๊กแฝดน้องต้องสงสัย

ฆ่ารัดคอแทงซ้ำสาวโรงไก่ ห่อฉนวนกันความร้อนทิ้งข้างทาง หลังหายตัวออกจากบ้านไป 2 วัน ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุคาดเป็นกิ๊กใหม่ของน้องสาวผู้ตาย เนื่องจากมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงเหตุ กีดกันห้ามยุ่งแฝดน้องก่อนกลายเป็นศพ
เมื่อ วันที่ 14 ม.ค.57เวลา 14.30 น. ร.ต.ท.ปรัชญา ยงยิ่ง ร้อยเวร สภ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีผู้พบศพทิ้งในกองขยะในฉนวนป้องกันความร้อน บริเวณริมถนนพหลโยธิน บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 130 ขาล่องเข้ากรุงเทพฯ ท้องที่หมู่ 7 ต.พุคำจาน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.เชิดชัย ศรศิลป์ รอง ผบก.ภ.จว.สระบุรี พ.ต.อ.อาคม พิพัฒน์เดชพงษ์ ผกก.สภ.พระพุทธบาท เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังฝ่ายสืบสวน และอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักขายของริมถนน พบ กองวัตสดุฉนวนกันความร้อนหลังคาม้วนหอร่างมนุษย์มีเพียงขายืนออกมา ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้ง จึงให้อาสาสมัครกู้ภัยฯ เปิดตรวจสอบ พบศพผู้หญิง 1 ราย สวมกางเกงยืดขายาวสีม่วง เสื้อกันหนาวแขนยาวมีน้ำตาล มีสภาพลิ้นจุกปากและมีบาดแผลถูกแทงที่หน้าท้อง จำนวน 2 แผล และจากการตรวจสอบภายในตัวพบกระเป๋าสตางค์ 1 ใบ ภายในมีใบอนุญาตขับขี่ระบุชื่อ น.ส.ชลธิชา เหล็กกลาง อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/8 หมู่ 9 ต.ขุนโขลน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้ง พบรถ จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน ขฉม 635 ลพบุรี คาดว่าเป็นของผู้ตายจอดทิ้งไว้ในป่าข้างทาง ห่างจากจุดพบศพประมาณ 100 เมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบและเก็บรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน จากการสอบสวนในเบื้องต้นคาดว่า ผู้ตายน่าจะถูกคนร้ายฆ่ามาจากที่อื่นแล้วนำศพมาทิ้งบริเวณดังกล่าวเพื่อเป็นการอำพรางคดี
ต่อมา ก็ได้มีนางบังอร โพธิ์อินทร์ อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นแม่ผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพพร้อมให้การว่า ลูกสาวทำงานอยู่โรงงานไก่แห่งหนึ่งใน อ.พระพุทธบาท และได้หายไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังเลิกงานตอนเย็น และได้ตามหาที่บ้านเพื่อนชายทราบเพียงชื่อนายซิ่ง ที่มาติดพันบุตรสาวอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นฝาแฝดผู้น้องของผู้ตาย เคยทะเลาะกันอย่างรุนแรงและได้โทรมาแจ้งว่าไม่ได้ทำอะไรผู้ตาย จึงติดตามเพื่อสอบถาม แต่ไม่พบตัว จึงได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.พระพุทธบาท จนกระทั่งมาพบเป็นศพถูกฆ่าตาย
ด้าน พ.ต.อ.เชิดชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนแม่ผู้ตายและคนใกล้ชิดทราบว่า ก่อนที่ผู้ตายจะหายตัวไปและกลายมาเป็นศพ ผู้ตายได้มีปากเสียงอย่างรุนแรงกับเพื่อนชาย คนสนิทของน้องสาวซึ่งเป็นฝาแฝดกัน คนหนึ่ง เกี่ยวกับเรื่องที่มาติดพัน เพราะฝ่ายชาย มีภรรยาอยู่แล้วจึงถูกกีดกันจากผู้ตายจนเป็นเหตุเกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนจะได้ติดตามตัวชายคนดังกล่าวมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นและเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ตายหรือไม่ เพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ก็ได้มอบศพให้มูลนิธินำไปสถาบันนิติเวชเพื่อชันสูตรโดยละเอียดต่อไป
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น