นางลัดดาวัลย์ บางท่าไม้ ผู้ทรงคุณวุฒิฯ เป็นประธานการประชุมกรรมการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 2 โดยมี ดร.กมล ปิยภัณฑ์ และ น.ส.วาสนา เดชอุดม รองประธาน นายพิศุทธิ์ วีระจิตต์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครเป็นเลขานุการ ณฺ ห้องประชุม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา สมุทรสาคร
คุณสมบัติของครูผู้มีสิทธิ์ได้รับการเสนอชื่อ
คุณสมบัติทั่วไป
๑) เป็นหรือเคยเป็นครูผู้สอนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในสถานศึกษาของรัฐ เอกชนหรือองค์กรปกครองส่วนถ้องถิ่น
๒) เป็นหรือเคยเป็นครูนอกสถานศึกษาที่สอนผู้เรียนในวัยการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๓) เป็นผู้ปฏิบัติงานสอนและจัดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลาไมาน้อยกว่า ๒๐ ปี
คุณสมบัติเฉพาะ๑. เป็นผู้สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ สร้างแรงบันดาลใจให้ลูกศิษย์เจริญก้าวหน้าสู่ความสำเร็จในชีวิต มีควาอุตสาหทุ่มเทในการทำภารกิจความเป็รครูโดยตลอดจนมีลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายแวดวงอาชีพกล่าวยกย่องถึงคุณงามความดี
๒. เป็นครูผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา ทั้งในแง่การเป็นแบบอย่างทางจริยธรรมให้แก่เพื่อนครู หรือครูรุ่นน้อง และการทำงานทุ่มแทกับการสอน หรือการจัดการเรียนรู้ การค่นคว้าพัฒนาการสอนจนมีความแตกฉานทั้งในเรื่องเนื้อหาและการจัดกระบวนการการเรียนรู้ในส่วนที่รับผิดชอบ
ผู้มีสิทธิ์เสนอชื่อ
๑) ลูกศิษย์ที่เป็นศิษย์เก่า อายุไม่น้อยกว่า ๒๕ ปี เสนอชื่อครูผู้เคยสอนตนมาก่อน ในการเสนอชื่อลูกศอษย์ ๑ คนมีสิทธ์ในการเสนอชื่อครูได้เพียง ๑ คนโดยเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด ณ จังหวัดที่ครูผู้ผู้รับการเสนอชื่อปฏิบัติงานอยู่
๒) องค์กรภาครัฐและภาคเอกชนที่มีการคัดเลือกครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นการเฉพาะ เพื่อมอบรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติอย่างเป็นระบบติดต่อกันทุกปีจนถึงปัจจุบันเป้นเวลาไม่น้อยกว่า ๓ ปี
๓) สถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
๔) สมาคม มูลนิธิ และองค์กรที่มีภารกิจส่งเสริมการเรียนรู้ เป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อครูในสังกัดหรือครูที่ปฏิบัติงานร่วมกันกับองค์กรของตน
การสรรหาและคัดเลือก
คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัล โดยกำหนดให้มีคณะกรรมการ ๓ รัดับ โดยมีกระบวนการและขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑ : การคัดเลือกรัดับจังหวัด
คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด พิจารณาและคัดเลือกครูที่ได้รับมอบการเสนอชื่อตามสัดส่วนจังหวัด และจัดให้มีการรับฟังข้อทักท้วงผลการคัดเลือก จากนั้นส่งรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือกไปให้คณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง
ขั้นตอนที่ ๒ : การคัดเลือกระดับจังหวัด
คระกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง พิจารณาให้ความเห็นชอบรายชื่อที่คณะกรรมการคัดเลือกระดับจังหวัด (ในขั้นตอนที่ ๑) และรายชื่อจากองค์กรที่มีการคัดเลือกครูในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป้นการเสอนเฉพาะมา แล้วคัดเลือกให้เหลือจำนวนไม่เกิน ๒๐ คน จัดให้มีกระบวนการทักท้วง และส่งรายชื่อครูผู้ได้รับการคัดเลือกลำดับที่ ๑-๓ ให้คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักร
ขั้นตอนที่ ๓: การพิจารณาตัดสิน
คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี พิจารณาตัดสินครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จำนวน ๑ คน จากรายชื่อที่เสนอโดยคณะกรรมการคัดเลือกส่วนกลาง โดยพิจารณาจากเอกสาร หลักฐานที่ได้รับ และอาจใช้วิธีการอื่นที่เหมาะสมแล้วประกาศผลการตัดสินให้ทราบเป็นการทั่วไป
ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จังหวัดสมุทรสาคร ได้ออกคำสั่งแต่งตั้ง คณะอนุกรรมการ คัดเลือกครู ผู้สมควรได้รับพระราชทาน รางวัล สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ประกอบด้วย ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครเป็นประธานฯ คณะอนุกรรมการ นางลัดดาวัลย์ บางท่าไม้ ผู้ทรงคุณวุฒิฯ เป็น อนุกรรมการ นายกมล ปิยภัณท์ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นคณะอนุกรรมการ น.ส.วาสนา เดชอุดม ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นคณะอนุกรรมการ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสมุทรสาคร เป็น คณะอนุกรรมการ นายสมมาตร คำวัจนัง รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครเป็น คณะอนุกรรมการ นางสุนาถ โกไศยกานนท์ ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครเป็น คณะอนุกรรมการ นางสาวสุกัญญา แสงสุข นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครเป็น คณะอนุกรรมการ นายอารมณ์ เจียงท่าไม้ ผู้แทนผู้อำนวยการคุรุสภา จังหวัดสมุทรสาคร เป็นคณะอนุกรรมการ และเลขานุการ นางวัฒนาพร นาชัยสาน นักทรัพยากรบุคคลชำนาญการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาสมุทรสาครเป็นคณะอนุกรรมการ และ ผู้ช่วยเลขานุการ โดยคณะอนุกรรมการ ชุดดังกล่าว ให้มีหน้าที่ กำหนดเป้าหมาย แผนปฏิบัติการ และ วิธีการคัดเลือก เพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุม คณะกรรมการ เพื่อคัดเลือก ต่อไป
กำหนดรับสมัครตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2557 ถึง 15 มค 2558 ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ อาจารย์อารมณ์ เจียงท่าไม้ โทร 081-8031873
การตั้งมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี (Princess Maha Chakri Award Foundation)
2. สำนักราชเลขาธิการ กองงานในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้แจ้งมายังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการว่า ได้นำความกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองพระบาทแล้ว ทรงพระราชทานให้ใช้ชื่อว่า “Princess Maha Chakri Award” เป็นรางวัลนานาชาติ จัดตั้งกองทุนของรางวัล โดยให้คุรุสภาเป็นหน่วยงานของกองทุนและมีคณะกรรมการจาก ศธ. องค์การยูเนสโก องค์การค้าของคุรุสภา สมาคมทางการศึกษา รวมทั้งผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นผู้ดูแล และดำเนินการสรรหาผู้เหมาะสม เพื่อรับราชทานรางวัลในวันครูโลก ซึ่งควรจะเริ่มตั้งแต่วันครูโลก ปี 2007 เป็นต้นไป หรือจนกว่ากองทุนจะพร้อม
ที่มา http://www.pmca.or.th/thai/
นางสุทธศรี วงษ์สมาน
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
นางสุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวว่า เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเจริญพระชนมายุครบ 60 พรรษาใน พ.ศ.2558 สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา และ ศธ.เห็นสมควรเฉลิมพระเกียรติพระองค์ ซึ่งทรงพระปรีชาด้านการศึกษา และได้อุทิศพระองค์เพื่อส่งเสริมเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทั่วท้องถิ่นที่ห่างไกล และได้รับพัฒนาคุณภาพชีวิตและงานอาชีพมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เกิดคุณูปการทั้งในระดับชาติและนานาชาติ จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาต จัดให้มีการสอบรางวัลนานาชาติ โดยทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อว่ารางวัลว่า “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี Princess Maha Chakri Award” ทั้งนี้ โดยรางวัลนี้ดังกล่าวเป็นรางวัลนานาชาติที่จะมอบให้แก่ครูผู้ทุ่มเทปฏิบัติงาน และมีผลงานดีเด่น อันก่อให้เกิดคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการศึกษาและพัฒนาคนจากประเทศไทย และประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประเทศละ 1 คน ซึ่งผู้ได้รับการคัดเลือกให้รับรางวัลนี้จะได้รับเหรียญรางวัล ประกาศนียบัตร และเงินรางวัลละ 10,000 เหรียญสหรัฐฯ
สำหรับรางวัลนี้ จะเปิดโอกาสให้ครูจากประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม 11 ประเทศได้รับการเสนอชื่อเป็นผู้ได้รับพระราชทานรางวัล โดยจะผ่านกระบวนการคัดเลือกจากกระทรวงศึกษาฯ ของแต่ละประเทศ โดยผู้มีสิทธิได้รับการเสนอชื่อจะต้องเป็นครูผู้ทุ่มเทปฏิบัติงานและผลงานดีเด่นอันก่อให้เกิดคุณประโยชน์ในวงกว้างต่อการศึกษาและการพัฒนาคน ในส่วนการคัดเลือกและตัดสินของประเทศไทยนั้น จะดำเนินการโดย คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ในเบื้องต้นจะให้หน่วยงานคัดเลือกเสนอชื่อมาจากระดับจังหวัดละ 112 คน และให้มีการเสนอชื่อหรือครูสมัครเอง จากนั้น เสนอรายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกประมาณ 2,000 กว่าคน มาพิจารณาในระดับประเทศ โดย ศธ.พื่อพิจารณาคัดเลือกให้เหลือ 20 คน และจะคัดเลือกให้เหลือ 3 คนสุดท้ายเสนอให้คณะกรรมการมูลนิธิฯตัดสินหาผู้เข้ารับรางวัลเพียง 1 คน โดยจะเข้ารับพระราชทานรางวัลครั้งแรกในช่วงประมาณเดือนตุลาคม 2558
“รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลใหญ่เท่าที่เคยมีมา เพื่อมอบให้แก่ครูผู้ทุ่มเทปฏิบัติงานและมีผลงานดีเด่นและจะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้แก่ครูทั่วไปด้วย” นางสุทธศรี กล่าว
ศธ.ไทยเตรียมพร้อมคัดครู 11 ประเทศรับรางวัล “สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” เชิดชูครูเก่ง ทำคุณประโยชน์ พร้อมเผยการจัดงานวันครูโลกซึ่งตรงกับวันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี ปีนี้จะถกกันเรื่องเพิ่มจำนวนครู บทบาทครู ระบุในปี 58 ทั่วโลกมีความต้องการครู 5.3 ล้านคน
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
นายกฤษณพงศ์ กีรติกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เป็นประธานแถลงข่าวรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ว่า ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จะทรงมีพระชนมายุ 60 พรรษาในปี 2558 ศธ.จึงได้ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตจัดตั้งรางวัลระดับนานาชาติเพื่อเฉลิมพระเกียรติด้านการศึกษาให้แก่เด็ก และเยาวชนในระดับต่าง ๆ มาโดยตลอด โดยทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาติ ตั้งพระนามรางวัลว่า “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” หรือ “Princess Maha Chakri Award” เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติครูผู้มีผลงานดีเด่น สร้างคุณประโยชน์ด้านการศึกษา ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม 11 ประเทศ ดังนี้ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ บรูไน และติมอร์-เลสเต โดยถือเป็นครั้งแรกที่ทั้ง 11 ประเทศจะดำเนินการคัดเลือกครู เพื่อเข้ารับพระราชทานรางวัลในเดือนตุลาคม 2558 เพื่อเป็นการยกย่องครูดีที่ทุ่มเทการทำงานเพื่อลูกศิษย์ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับครูที่ทำงานเพื่อเด็กด้อยโอกาสให้มีกำลังใจที่ดี และเป็นแรงบันดาลใจให้เพื่อนครูและผู้ที่ทำงานในวิชาชีพครูต่อไปได้ ซึ่งจากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)พบว่า ในปี 2556 ประเทศไทยมีเด็กด้อยโอกาสอยู่ในระบบการศึกษาเกือบ 5 ล้านคน ซึ่งสูงกว่าปี 2555 กว่า 6 แสนคน นอกจากนี้ยังมีเด็กด้อยโอกาสนอกระบบการศึกษาที่ไม่สามารถเข้าถึงการศึกษาได้ อีกเป็นจำนวนมาก
“นอกจากนี้ในวันครูโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 ตุลาคมของทุกปี และ ปีนี้มีประเด็นสำคัญที่ตั้งเป็นหัวข้อการเสวนาคือ “Invest in the future, Invest in teachers” โดย มีประเด็นที่สำคัญได้แก่ การเพิ่มจำนวนครู การเพิ่มบทบาท ภารกิจที่ยิ่งใหญ่ของครูต่อการสร้างคนรุ่นใหม่ และบทบาทความสำคัญของครูต่อชุมชนและสังคม โดยมีการประมาณความต้องการครู จากทั่วโลกในปี 2558 อยู่ที่ 5.3 ล้านคน เพื่อทดแทนครูที่ออกจากระบบ 3.7 ล้านคน และรองรับการขยายตัวทางการศึกษาอีก 1.6 ล้านคน ทวีปแอฟริกา มีความต้องการครูสูงสุด ถึง 9 แสนคน หรือ 63% ของความต้องการครูทั้งหมดทั่วโลก สำหรับประเทศไทยเองในอีก 10 ปีข้างหน้า จะมีครูเกษียณอายุราชการสู.ถึง 1.8 แสนคน เป็นอย่างน้อย ดังนั้นมาตรการทดแทนครูที่กำลังเกษียณ จึงมีผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพการศึกษาอย่างมาก และนับเป็นโอกาสสำคัญที่จะเร่งผลิตและพัฒนาครูในศตวรรษที่ 21 ที่สามารถตอบสนองระบบการศึกษาในอนาคตได้ “นายกฤษณพงศ์กล่าว
ภาพบรรยากาศงานแถลงข่าวงานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 57
ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ให้เกียรติเป็นประธานแถลงข่าวงานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ร่วมกับดร.สุทธศรี วงษ์สมาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ดร.จรูญ ไชยศร รองอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ และวิทยากรพิเศษ โดยมีสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา องค์กรหลัก และสสค.เป็นหน่วยงานสนับสนุนในพื้นที่ ณ ห้องประชุมจันทรเกษม หอประชุมคุรุสภา
“รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” สร้างกระแสการมีส่วนร่วมคนไทยทั้งประเทศ
ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรีเชื่อมั่น “รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี” สร้างกระแสการมีส่วนร่วมคนไทยทั้งประเทศ ย้ำเป็นความท้าทายในการให้คุณค่าครูในมิติใหม่ รับกระแสครูโลก ปลัด ศธ.ย้ำ ครูดีต้องเข้าถึงศิษย์ พร้อมชักชวนศิษย์เก่าเสนอชื่อครูดีเชิดชูเกียรติภายใน พ.ย.57
ลิขิต รักอยู่ สมุทรสาครนิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น