วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สวท.สุพรรณบุรี สรุปข่าวสำคัญ สัปดาห์แรกเดือน ตุลาคม 2557





             นางจำนงค์ ศรัณยพิพัฒน์  นักประชาสัมพันธ์ ชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดสุพรรณบุรี นางเฉลียว อินยิ้ม นักสื่อสารมวลชน  และ นางสาวสวิตต์ เพ็งรุ่ง  ผู้สื่อข่าวฯ สรุปข่าวสำคัญในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ประจำสัปดาห์แรกของเดือน ตุลาคม 2557 ดังนี้


                ผู้ว่าฯสุพรรณบุรี วางพวงมาลาถวายราชสักการะ “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”


http://thainews.prd.go.th/CenterWeb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5710010010061

             
                ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นำส่วนราชการ วางพวงมาลาถวายราชสักการะ “วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว”พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยนานัปการ  

               วันนี้(1 ต.ค.57) ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี นำหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นประชาชนในจังหวัดสุพรรณบุรี วางพวงมาลาถวายราชสักการะเนื่องใน“วันที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว” พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย ณ หอประชุมอาชาสีหมอก ศาลากลางจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อ รำลึกถึงวันเสด็จสวรรคตซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี และน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ทรงมีต่อปวงพสกนิกรชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์จักรี 

                พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4  ทรงได้รับยอกย่องในพระราชสมัญญานามว่า พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย เพราะทรงพระปรีชาสามารถและอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ ทรงศึกษาโดยพระองค์เองจากตำราไทยและมอญ ซึ่งแปลจากตำราโบราณของฮินดู และทรงศึกษาตำรา
ดาราศาสตร์และคณิตศาสตร์จากยุโรป จนสามารถคำนวณได้ล่วงหน้าถึง 2 ปี ว่า จะเกิดสุริยุปราคาเต็ม ดวงในวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 และเห็นได้อย่างชัดเจนในประเทศไทยที่บ้านคลองลึก ตำบลหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ทรงเป็นนักปฏิบัติทดลองรวบรวมข้อมูล  ทรงวัดเส้นรุ้งเส้นแวงด้วยพระองค์เอง  ทรงสร้างหอดูดาวขึ้นที่เขาหลวง จังหวัดเพชรบุรี  ทรงตั้งเวลามาตรฐานของไทย  โดยโปรดให้สร้างนาฬิกาขึ้นในพระบรมมหาราชวัง  และตั้งเวลามาตรฐานเพื่อให้ชาวต่างประเทศในเมืองไทยด้วย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประชวรไข้ระหว่างเสด็จพระราชดำเนินกลับจากการทอดพระเนตรสุริยุปราคา ทรงประชวรหนักและเสด็จสวรรคตในวันพฤหัสบดี เดือน 11 ขึ้น 15 ค่ำ ตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2411 ดำรงราชสมบัติ 17 พรรษา 
                                       *********************************************************************** 
                 เฉลียว/ข่าว/พิมพ์1 ต.ค. 57/ข่าวสุพรรณบุรี

                 ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี มุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชนแบบเบ็ดเสร็จ



http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5710010010065
               
                  ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมบูรณาการกับทุกภาคส่วนในการพัฒนาคุณภาพการดำเนินงาน โดยมุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชนแบบเบ็ดเสร็จในระดับพื้นที่

                  ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะประธานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี  กล่าวว่า ที่ผ่านมาศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ได้ทำงานโดยบูรณาการกับทุกภาคส่วน เพื่อแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของประชาชนให้ได้รับความพึงพอใจ รวมทั้งการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบช่องทางการร้องเรียน การให้บริการข้อมูลข่าวสาร และบริการแบบเบ็ดเสร็จ โดยศูนย์ดำรงธรรมระดับพื้นที่ในแต่ละอำเภอ ซึ่งมีนายอำนาจเป็นหัวหน้าศูนย์ฯ ได้มอบอำนาจการบังคับบัญชาและการบริหารให้นายอำเภอรับผิดชอบ เพื่อประโยชน์กับการบริหารจัดการศูนย์ฯ ได้อย่างแบบเบ็ดเสร็จ เนื่องจากอยากให้การแก้ปัญหาข้อร้องเรียนจบได้ที่ระดับอำเภอ อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานของศูนย์ฯ ในระยะต่อไปคงต้องเข้าถึงระดับหมู่บ้าน โดยต้องลงพื้นที่และรวบรวมปัญหาของชาวบ้านอย่างใกล้ชิดด้วย

                  ด้านนายพิภพ บุญธรรม ปลัดจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จากประกาศฉบับที่ 96 ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ กำหนดให้แต่ละจังหวัดจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรม ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2557 จังหวัดสุพรรณบุรี จึงมีคำสั่งปรับปรุงเปลี่ยนแปลงและพัฒนากรอบความคิดการทำงานของศูนย์ฯ ให้มีคุณภาพมากขึ้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานอย่างยั่งยืน โดยผลการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุพรรณบุรี ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึงวันที่ 25 กันยายน 2557 มีเรื่องร้องเรียน 329 เรื่อง แก้ไขและยุติเรื่องได้ 227 เรื่อง ส่วนที่เหลือ 102 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งส่วนใหญ่ติดขัดด้วยเงื่อนไขของเวลา 

                 *********************************************************************** 

                 เฉลียว/ข่าว/พิมพ์/1 ต.ค. 57/ข่าวสุพรรณบุรี



                 อุตุนิยมวิทยาสุพรรณบุรี เตือนเกษตรกรระวังฝนตกหนัก สร้างความเสียหายต่อพืช 


http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5709090010220


                   ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาสุพรรณบุรี  เตือนเกษตรกรระวังฝนตกหนัก อาจกระทบและทำความเสียหายต่อพืชไร่ และไม้ผล เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว

                   นายสมนึก   สวนดอกไม้  ผู้อำนวยการสถานีอุตุนิยมวิทยาสุพรรณบุรี กล่าวว่า ในวันที่ 1 - 3 ตุลาคม 2557  ความกดอากาศสูง จากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและลาวตอนบน ประกอบกับร่องมรสุมกำลังปานกลางเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนองในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 4-5 ตุลาคม 2557 ความกดอากาศสูงอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ในขณะที่ร่องมรสุมจะมีกำลังแรงขึ้นและเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน และภาคตะวันออก ประกอบมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง 

                   สำหรับผลกระทบต่อการเกษตรภาคสัปดาห์นี้มีฝนตกชุก กับมีฝนตกหนัก เกษตรกรควรระวังอันตรายและป้องกันความเสียหายจากสภาวะดังกล่าว สำหรับพื้นที่การเกษตรที่อยู่ในที่ลุ่ม เกษตรกรควรจัดระบบระบายน้ำให้มีประสิทธิภาพ อย่าให้น้ำท่วมขังในพื้นที่เพาะปลูกนาน เพราะจะทำให้รากพืชขาดอากาศและต้นตายได้ส่วนฝนที่ตกจะทำให้ดินและอากาศมีความชื้นสูง เกษตรกรควรระวังและป้องกันโรคพืชที่เกิดจากเชื้อราในไม้ดอกและพืชสวน เช่น โรคใบจุดในไม้ดอก โรครากเน่าโคนเน่าในไม้ผล เป็นต้น   ทั้งนี้  ประชาชนสามารถติดตามรับฟังการรายงานสภาพอากาศ  ของสถานีอุตุนิยมวิทยาสุพรรณบุรี ได้ทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุพรรณบุรี ทุกวัน เวลา 09.00 น. ซึ่งการทราบสภาวะอากาศล่วงหน้าจึงเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรอย่างยิ่ง 


                  ***********************************************************************

                   เฉลียว/ข่าว/พิมพ์/1 ต.ค.57/สุพรรณบุรี




                   สุพรรณบุรี เชิญชวนประชาชนร่วมพิธีบำเพ็ญพระกุศลครบ 1 ปีการสิ้นพระชนม์สมเด็จพระสังฆราชฯ


http://thainews.prd.go.th/CenterWeb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5710020010058

      
                   จังหวัดสุพรรณบุรี เชิญชวนประชาชนร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง บำเพ็ญพระกุศลครบ 1 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก

                  ว่าที่ร้อยตรีสุพีร์พัฒน์ จองพานิช ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรี  เตรียมจัดพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อถวายเป็นพระกุศล เนื่องในงานบำเพ็ญพระกุศลครบ 1 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ในวันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 เวลา 08.00 น. ณ วัดสุวรรณภูมิ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี  จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีดังกล่าว พร้อมสวดพระพุทธมนต์ ฟังพระธรรมเทศนา และปฏิบัติธรรม น้อมอุทิศกุศลจริยาสัมมาปฏิบัติ ถวายพระกุศลแด่ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายกโดยพร้อมเพรียงกัน

                 ทั้งนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช  สกลมหาสังฆปริณายก ได้สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2556 และ ในวันที่ 3 ตุลาคม 2557 จะเป็นวันคล้ายวันประสูติเป็นปีที่ 101 และในวาระครบ 1 ปี วันสิ้นพระชนม์ 24 ตุลาคม 2557 ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์ ในการจัดงานการบำเพ็ญกุศลครบ 1 ปี แห่งการสิ้นพระชนม์ ฯ ระหว่างวันที่ 3-24 ตุลาคม 2557 โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี มาร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระภิกษุสามเณร จำนวน150 รูป บริเวณถนนพระสุเมรุ หน้าวัดบวรนิเวศวิหารในวันที่  3 ตุลาคมนี้ เวลา 07.00 น.
              
                  °***********************************************************************

                   เฉลียว/ข่าว/สวิตต์/พิมพ์/2  ต.ค. 57/สุพรรณบุรี



                   จ.สุพรรณบุรี แถลงข่าวงานประเพณีตักบาตรเทโว วัดเขาดีสลัก


http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNART5709240010010


                    อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี จัดแถลงข่าวงานประเพณีตักบาตเทโว วัดเขาดีสลัก อย่างยิ่งใหญ่ เพื่อสืบสานประเพณี และวัฒนธรรมของไทย

                    วันนี้(3 ต.ค.57)นายสมชาย  เลิศพงศ์ภากรณ์   รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ประธานแถลงข่าวงานประเพณีตักบาตเทโว วัดเขาดีสลัก จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมคณะ ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี  อำเภออู่ทอง และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง กำหนดจัดงานประเพณีตักบาตรเทโว วัดเขาดีสลักขึ้น เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน โดยจะมีพิธีเปิดงานและตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง พระสงฆ์ จำนวน 200 รูป ในวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคมนี้ เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00 น. ณ วัดเขาดีสลัก ตำบลดอนคา อำเภออู่ทอง จังหวัด

                    สุพรรณบุรี  เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีดั้งเดิมอันทรงคุณค่าของคนไทยและยังเป็นการแสดงถึงความร่วมมือร่วมใจกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนชาวอู่ทองอีกด้วย ซึ่งพิธีดังกล่าว พระภิกษุสงฆ์จะเดินลงมาจากมณฑปรอยพระพุทธบาทตามบันไดนาค โดยมีประธานสงฆ์พรมน้ำพระพุทธมนต์ มีขบวนเสลี่ยงพระพุทธ ขบวนเทวดา และนางฟ้า ขบวนกลองยาว ขบวนหัวโต ขบวนเปรต และการแสดงกระตั้วแทงเสือ  นอกจากนี้ ยังเป็นการให้ประชาชนได้มีโอกาสร่วมทำบุญเนื่องในเทศกาลวันออกพรรษา และยังเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีอันดีงานของไทยให้คงอยู่สืบไป

               ********************************************************

                เฉลียว/ข่าว/พิมพ์/3 ต.ค.57/ข่าวสุพรรณบุรี




               รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ติดตามงานและพบปะเกษตรกรสุพรรณบุรี



http://thainews.prd.go.th/centerweb/news/NewsDetail?NT01_NewsID=TNSOC5710040010005


                รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบปะเกษตรกรสุพรรณบุรี พร้อมตรวจติดตามสถานการณ์น้ำช่วงหน้าแล้งและแนวทางการช่วยเหลือ

                เช้าวันนี้ (4 ต.ค.57) นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้เยี่ยมชมตลาดนัดสินค้าเกษตรในเมือง บริเวณสถานีจำหน่ายน้ำมัน ปตท. หลักเมืองถาวร จากนั้นได้เดินทางไปพบปะเกษตรกรจากอำเภอต่าง ๆ จำนวนประมาณ 2,000 คน ณ วัดบ้านกร่าง ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนการช่วยเหลือเกษตรกร นอกจากนี้ ยังได้ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำในช่วงหน้าแล้งของปีนี้ จากอธิบดีกรมชลประทาน รวมทั้งแนวทางการช่วยเหลือเกษตรกร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว จากอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ก่อนเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย

                สำหรับสถานการณ์น้ำ.แม่น้ำเจ้าพระยาปริมาณน้ำไหลผ่านจังหวัดนครสวรรค์ 842 คิว  เพิ่ม 38 คิว  และผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 755  คิว  เพิ่ม 3 คิว  สภาพน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง   ส่วนแม่น้ำท่าจีน  รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา  จังหวัดชัยนาท   ปริมาณน้ำผ่านประตูระบายน้ำพล  ประตูระบายน้ำท่าโบสถ์  ประตูระบายน้ำสามชุก และประตูระบายน้ำโพธิ์พระยา รับน้ำเพิ่มขึ้นทั้ง 4 ประตู  ระดับท้ายน้ำวัดได้ 4.04 เมตร ซึ่งจะเริ่มวิกฤตที่ 4.50เมตร  โดยคลองสองพี่น้องไหลผ่านประตูระบายน้ำสองพี่น้องที่วัดบางสามลงสู่แม่น้ำท่าจีน 41 คิวมีระดับน้ำด้านเหนือ1.81เมตรและท้ายน้ำ1.78เมตร  อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นชลประทานจังหวัดสุพรรณบุรีและ เทศบาลเมืองสุพรรณบุรี  เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมแล้ว  ขอให้ประชาชนบริเวณริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนเฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป 
  
                  เฉลียว/ข่าว/พิมพ์/4 ต.ค. 57/สุพรรณบุรี


                 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันเร่งช่วยเหลือเกษตรกรสุพรรณบุรี


http://thainews.prd.go.th/centerweb/News/NewsDetail?NT01_NewsID=TNEVN5710040010008


                 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยืนยันเร่งช่วยเหลือเกษตรกรสุพรรณบุรี หลังตรวจติดตามสถานการณ์น้ำช่วงหน้าแล้งและแนวทางการช่วยเหลือ

                 บ่ายวันนี้ (4 ต.ค.57) นายปิติพงศ์ พึ่งบุญ ณ อยุธยา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อพบปะเกษตรกรจากอำเภอต่าง ๆ จำนวนประมาณ 2,000 คน ณ วัดบ้านกร่าง ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี พร้อมชี้แจงสร้างความเข้าใจนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนการช่วยเหลือเกษตรกรกรณีขาดน้ำทำนาในช่วงหน้าแล้ง โดยอธิบดีกรมชลประทาน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงถึงสถานการณ์น้ำของเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิต์ว่าในเดือนพฤศจิกายน นี้สามารถระบายน้ำได้วันละ 5 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อเขื่อน ซึ่งเป็นแผนการที่เตรียมไว้ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาดังกล่าว แต่ขอให้เกษตรปฏิบัติตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำของชลประทาน ซึ่งนับจากนี้ไป เกษตรกรที่ไม่ได้ลงทะเบียนปลูกข้าวนาปรัง ขอให้งดการปลูกข้าวเพิ่มอย่างเด็ดขาด เนื่องจากปริมาณที่ระบายลงมาจะไม่เพียงพอ  ซึ่งเกษตรกรต่างพอใจ การชี้แจงดังกล่าว  โดยตัวแทนเกษตรกรหลายอำเภอต่างกล่าวแสดงความขอบคุณการช่วยเหลือเยียวยาของรัฐ  ส่วนการส่งเสริมการปลูกปุ๋ยพืชสดนั้น ขอเปลี่ยนเป็นการส่งเสริมการปลูกถั่วเขียวทดแทนการปลูกปอเทือง เนื่องจากสามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรเพิ่มขึ้น

                  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งว่า นอกจากการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำช่วงหน้าแล้งและแนวทางการช่วยเหลือดังกล่าวแล้ว รัฐบาลพร้อมส่งเสริมสินค้าเกษตรปลอดภัยและการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งจากการเยี่ยมชม ตลาดนัดสินค้าเกษตรในเมือง บริเวณสถานีจำหน่ายน้ำมัน ปตท. หลักเมืองถาวร และหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ซึ่งเกษตรกรนำสินค้าเกษตรปลอดภัยมาจำหน่ายโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก สามารถสร้างรายได้แก่เกษตรกรเพิ่มมากขึ้น 

                    °   
     *************************************************************









                  เฉลียว/ข่าว/พิมพ์/4 ต.ค. 57/สุพรรณบุรี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น