วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

แถลงข่าว จัดงานวันมะม่วงมันหนองแซงสระบุรี

อำเภอหนองแซง ร่วมกับนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองแซง แถลงข่าว จัดงานประเพณีงานสืบสานตำนานมะม่วงมันหนองแซง ระหว่างวันที่ 13 -19 ก.พ.56 ณ.บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแซงจังหวัดสระบุรี เมื่อ 8 ก.พ.56 นายบัญชา เชาวรินทร์ อำเภอหนองแซงร่วมกับ พันจ่าเอกกันตพัฒน์ เสตะพันธุ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลหนองแซง แถลงข่าวการ จัดงานประเพณีงานสืบสานตำนานมะม่วงมันหนองแซงประจำปี 2556 ระหว่างวันที่ 13 -19 ก.พ.56 ณ.บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลหนองแซงจังหวัดสระบุรี
พันจ่าเอกกันตพัฒน์ เสตะพันธุ์ เปิดเผยอีกว่า ในอดีต อำเภอหนองแซงเป็นแหล่งปลูกมะม่วงดีที่สุดในประเทศไทยถึงกลับบางคนเดินทางมาจากหลายๆจังหวัดเพื่อมาซื้อมะม่วงมันหนองแซงไปทานเพราะมีรสชาติหวานมัน อร่อยกว่าที่อื่น จนมีพ่อค้าบางคนมารับซื้อแบบเหมาสวนเพื่อเป็นสินค้าออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศมากมายจนเป็นที่กล่าวขานโด่งดังไปทั่วประเทศและต่างประเทศ การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์และสืบสานตำนานของมะม่วงมันหนองแซงให้คงอยู่คู่กับอำเภอหนองแซงให้นานแสนนาน ภายในงานมีการประกวดธิดามะม่วงมันหนองแซง การประกวดร้องเพลงการประกวดสาวประเภทสองการประกวดพันธ์มะม่วงมันหนองแซงการประกวดผลมะม่วงมันหนองแซง การแข่งขันตำส้มตำ พบกับสินค้าOTOP ผลิตผลการเกษตร สินค้าจากโรงงานโดยตรงมาจำหน่ายในราคาพิเศษ กว่า 5,000 รายการด้ารมหรสพได้จดศิลปินดังจากทุกค่ายเพลงวันที่ 13 ก.พ.56 พบกับมลฤดี ศรีไคล วันที่14 พบกับวิดไฮเปอร์วันที่15 จ้า ชาลินีย์ วันที่16 นิค นิรนามวันที่ 17 ปั๊ม ณรงกลด วันที่18 พบกับ พลพล แบบเต็มวง แลในวันที่19พบกับมาลีฮวนน่า
สุดท้ายขอเชิญชวนพี้น้องชาวจังหวัดสระบุรีและจังหวัดใกล้เคียง มาเที่ยวชมงานานเพื่อร่วมอนุรักษ์และสืบสานตำนานมะม่วงมันหนองแซงซึ่งในอดีตเป็นมะม่วงที่อร่อยที่ในประเทศไทยให้เป็นมะม่วงมันอยู่คู่หนองแซงสืบไป สำหรับตำนานมะม่วงมันหนองแซงมีการกล่าว จากผู้สูงอายุ ความว่า พ่อเฒ่าทิม แม่เฒ่าคำ คนบ้านหนองน้ำสร้างได้ไปเยี่ยมลูกบุญธรรม ซึ่งบวชเป็นพระอยู่ที่วัดเลียบ (วัดราษฎร์บูรณะ) ในกรุงเทพฯ เกือบร้อยปีที่ผ่านมาแล้ว พักอยู่กับพระหลายวัน ได้กินมะม่วงชนิดหนึ่งมีลักษณะคล้ายมะม่วงพิมเสน รสชาติหวานมันอร่อย ได้เก็บเมล็ดเอาไว้ เมื่อกลับมาบ้าน ได้เอาเมล็ดมะม่วง ๓ เมล็ด มาปลูกไว้ข้างยุ้งข้าวที่เป็นหนองน้ำสร้าง โดยไม่รู้ว่าเป็นเมล็ดมะม่วงอะไร พอต้นโตก็มีลูกออกมาในระยะใกล้เคียงกันทั้ง 3 ต้น ก็ปรากฏว่าต้นหนึ่งผลโตมาก คือมะม่วงช้าง อีกต้นหนึ่งผลใหญ่ เวลาสุกผิวส่วนหางสีแดงจัด เรียกว่าตลับนาค สำหรับต้นที่เหลือคือมะม่วงมัน เพราะรสชาติเวลากินเข้าไปแล้ว มันผิดแปลกไปจากมะม่วงต้นอื่น ๆ ที่ปลูกไว้ไม่ว่าจะกินตอนไหน มันจะไม่เปรี้ยว เจ้าของเลยตั้งชื่อว่า "มะม่วงมัน" ต่างได้ชิมพากันติดใจไปตามๆกัน ถึงขนาดขายกันผลละ 2 บาท พร้อมกับขอเมล็ดคืนจากนั้นเพื่อนบ้านก็มาขอพันธ์ไปปลูก ต้นมะม่วงมันก็ค่อยๆ แพร่หลายขึ้นเรื่อยๆ ต่อมานั้นกำนันภู ชัยเดช ได้นำมะม่วงมันหนองแซงไปฝากคหบดีในจังหวัด อำเภอ จนเป็นที่สนใจและมีชื่อเสียงขึ้นมา ปัจจุบันอำเภอหนองแซงได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านปลูกมะม่วงมันทุกเครือเรือน บางครัวเรือนก็ปลูกเป็นอาชีพทำรายได้ปีหนึ่งหลายหมื่นบาท และอำเภอหนองแซงร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงานวันมะม่วงมันหนองแซง ช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี
เอกลักษณ์มะม่วงมันหนองแซง มะม่วงมันหนองแซง เมื่อผลเล็กเท่าเมล็ดพุทรา จะมีรสฝาดกินไม่อร่อย ผลโตขนาดเท่าหัวนิ้วโป้งจะเริ่มมีรสชาติมัน รสชาติจะดีที่สุดตอนเข้าไคลแล้ว นิยมกินเมื่อแก่จัดและยังดิบอยู่ สังเกตจากผิวสีเทานวล หากปล่อยให้สุก จะเสียรส มีรสจืด แต่มะม่วงมันอื่นๆ ส่วนมากจะรสชาติมัน เฉพาะตอนแก่จัดจ้าน(ห่าม)มะม่วงมันหนองแซงนี้หากนำไปปลูกที่อื่น รสชาติจะกลายไปจากดั้งเดิมทันทีฉะนั้นมะม่วงมันหนองแซงจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตามพื้นที่ปลูกเป็นของตนเอง
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น