รมต.กระทรวงอุตสาหกรรมควงปลัดฯตรวจโรงงานที่คาดว่าสร้างผลกระทบน้ำป่าสักเน่าปลากระชังตายเสียหาย 32 ล้าน
เมื่อ 18 ม.ค.56 เวลา 11.00 น. นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม และคณะฯ ลงพื้นที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อตรวจสอบ กรณีน้ำในแม่น้ำป่าสักเน่าเสียและโรงงานที่ต้องสงสัยว่าปล่อยสารพิษลงสู่แม่น้ำป่าสัก มีนายชโลธร ผาโคตร รอง ผู้ว่าราชการจังหวัด.สระบุรีนำคณะ ฝ่ายปกครองเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเช่นประมงจังหวัดสระบุรี อุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี ฝ่ายปกครอง สื่อมวลชน ตลอดจนนายชำนาญ ปานทอง แกนนำผู้เลี้ยงปลาในกระชัง เข้าร่วมสังเกตการณ์ พร้อมชาวบ้านผู้เลี้ยงปลาในกระชังที่ได้รับความเดือดร้อน เข้าร่วมการตรวจสอบพื้นบริเวณที่มีปลาตามธรรมชาติและปลาในกระชังตาย ตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค.56 ที่ผ่านมาบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำ ม.7 บ้านช่องใต้ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งเป็นจุดแรกที่เกิดปลาตาย และพื้นที่ พงษ์ศักดิ์แพปลา ม.7 บ้านช่องใต้ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งแพปลาแห่งนี้ได้รับผลกระทบและส่งผลทำให้เกิดปลาในกระชังตาย ประมาณ ๓ ตันเศษ จากนั้นได้เข้าตรวจสอบ บริษัท ออรัส สเปเชียลลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท ผลิตแอลกอฮอล์ จากซังข้าวโพด เพื่อการส่งออกต่างประเทศ ตั้งอยู่ที่ ต.สองคอน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยเมื่อคณะมาถึง ผู้แทนบริษัทฯ ได้บรรยาย กระบวนการผลิตของโรงงานตลอดจนกระบวนการบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยลงสู่โดยอ้างว่าการบำบัดน้ำเสียของบริษัทฯ นั้น ได้มาตรฐานสากล ISO 9001:2008 ,ISO14001:2004 , ISO14064-1:2006 คณะจึงได้เดินทาง ได้เดินทางไปดูสถานที่บำบัดน้ำเสียก่อนปล่อยลงแม่น้ำ และทำการวัดค่าคุณภาพของน้ำหลังจากที่ได้ผ่านกระบวนการบำบัดแล้ว และผลปรากฏว่า ส่วนมากเป็นค่าที่เกินค่ามาตรฐานโดยค่าความเป็นกรดด่าง PH วัดได้ 9.2 จากค่ามาตรฐาน 8.5 ค่าออกซิเจนในน้ำ วัดได้ 7 มิลลิกรัม/ลิตร จากค่ามาตรฐาน 3
นายประเสริฐฯ ได้กล่าวกับราษฎรและสื่อมวลชนขณะนี้ได้แจ้งดำเนินคดีเกี่ยวกับผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายดังกล่าวแล้ว โดยยืนยันว่า จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และในระยะยาว จะมีการตรวจสอบโรงงานต่างๆ เดือนละ 1ครั้ง และจะเชิญโรงงานต่างๆในพื้นที่ เข้าสู่โครงการ “โรงงานสีเขียว” ส่วนราษฎรที่เข้าร่วมสังเกตการณ์ ร้องขอ เครื่องตรวจวัดสภาพน้ำ โดยทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม จะจัดหาให้ตามที่ร้องขอ สำหรับเรื่องความเดือดร้อนดังกล่าวนี้ จะได้นำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาต่อไปได้เดินทางออกจากบริษัท ออรัส สเปเชียลลิตี้ จำกัด เดินทางกลับกรุงเทพฯ
อนึ่งบริษัทแห่งนี้ เคยถูกปิดไปแล้วก่อนหน้านี้จนต้องเปลี่ยนชื่อบริษัท เนื่องจากไม่มีการปรับปรุงคุณภาพของน้ำเสียที่บำบัดก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำและปล่อยให้มีกลิ่นเหม็นทำลายสุขภาพคนในพื้นที่ของคนอำเภอแก่งคอยและใกล้เคียง แต่ก็สามารถเปิดบริษัทได้ใหม่อีกครั้ง ต้องดูต่อไปว่าหลังจากที่กระทรวงอุตสาหกรรมจะนำเครื่องตรวจคุณภาพน้ำมาให้ ว่าจะสามารถทำให้คุณภาพน้ำเสียที่บำบัดก่อนปล่อยลงสู่แม่น้ำ จะดีขึ้นหรือไม่ และเป็นที่น่าสังเกตว่าบริเวณลานที่เก็บซังข้าวโพดที่ส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งปล่อยเป็นที่โล่งมีล่องน้ำโดยรอบลานเก็บ หากมีฝนตกมาน้ำฝนต้องลงมาชะล้างของเสียสู่แม่น้ำโดยตรงอย่างแน่นอน
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น