เครือข่ายคนสระบุรี ร้องผู้ว่าฯกรณีรัฐบาลมีนโยบายขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม

เครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงานจังหวัดสระบุรี ร้องผู้ว่าฯกรณีรัฐบาลมีนโยบายขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม เมื่อ 9 ม.ค. 56 เวลา 10.00 น. กลุ่มเครือข่ายธรรมาภิบาลด้านพลังงานจังหวัดสระบุรี นำโดยนางปฐมมน กัณหา ประธานเครือข่ายฯ 50 คน ได้เดินขบวนไปยังศาลากลางจังหวัดสระบุรี เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ ผวจ.สระบุรี ณ ศาลากลางจังหวัดสระบุรี อ.เมือง จ.สระบุรี เนื่องจาก กระทรวงพลังงานมีนโยบายปรับขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม เบื้องต้น นายประดิษฐ์ ทิพย์สุมาลัย รอง ผวจ.สระบุรี ได้เดินทางมารับหนังสือจากผู้ชุมนุม เพื่อเสนอผ่านไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ ถึงรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานเพื่อให้พิจารณาตามข้อเรียกร้อง

โดยขอให้ รัฐบาลควรหยุดนโยบายขึ้นราคาก๊าซแอลพีจี เนื่องจากผู้รับสัมปทานมีต้นทุนการผลิตก๊าซธรรมชาติรวมถึงก๊าซแอลพีจีที่ต่ำ ซึ่งปัจจุบันเป็นราคาที่ผู้ค้าได้กำไรมากอยู่แล้ว, ก๊าซแอลพีจีที่ได้จากก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลควรจัดให้ประชาชนได้ใช้ก่อน ส่วนเหลือที่จึงจัดสรรให้กับภาคอุตสาหกรรมได้ใช้ หากไม่เพียงพอ ภาคอุตสาหกรรมควรเป็นผู้รับภาระในการนำเข้าเอง, ให้ยกเลิกการนำเอาเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงไปอุดหนุนการใช้แอลพีจีเป็นวัตถุดิบของธุรกิจปิโตรเคมี ในราคาที่ต่ำกว่าราคาตลาดโลก เป็นการลงทุนที่ผิดวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งกองทุนน้ำมันฯ , รัฐบาลควรสั่งให้ ปิโตรเคมีที่ใช้แอลพีจีอย่างน้อยปีละ 2,400 ล้านกิโลกรัม จ่ายเข้ากองทุนน้ำมันอย่างน้อยกิโลกรัมละ 7 บาท เหมือนที่สั่งเก็บจากโรงงานอุตสาหกรรมอื่นๆ จะทำให้หนี้กองทุนน้ำมันหมดไป ภายใน 1 ปี และรัฐบาลควรสั่งให้ ปตท. ส่งคืนเงินที่ได้รับชดเชยส่วนต่างราคาแอลพีจีที่นำเข้าไปแล้วประมาณหนึ่งแสนล้านบาทให้แก่กองทุนน้ำมันฯ โดยเร็ว , ให้มีคำสั่งห้ามมิให้ปลัดกระทรวงและข้าราชการระดับสูงของกระทรวงพลังงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลกิจการพลังงาน เป็นกรรมการในธุรกิจพลังงานทั้งหมด จากนั้นได้แยกย้ายกันกลับ (คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)