นายกฯตี๋ นายก อบจ.สระบุรีเปิดงานนิทรรศการ ชมปรากฏการณ์ฝนดาวตก “เจมินิดส์”ศูนย์ดาราศาสตร์ บ้านหมอสระบุรีหลังทุ่มงบ กว่าร้อยล้าน พัฒนาการศึกษาด้านดาราศาสตร์ให้กับเด็กนักเรียน ประชาชนทั่วไป ประกาศลั่นทุ่มสุดตัวพร้อมสนับสนุนงบประมาณด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาศักยภาพการเรียนรู้ของเยาวชนอย่างต่อเนื่อง ณ.ศูนย์ดาราศาสตร์ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี
เมื่อ 13 ธ.ค.55 เวลา 18.30 น.นายเฉลิม วงษ์ไพร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงานโครงการกิจกรรมภาคสนามสังเกตการณ์ฝนดาวตก “เจมินิดส์” นายสุจิน มาบุญเลิศ รองปลัด อบจ.สบ. กล่าวรายงาน โดยมีนายฐากูร เกิดแก้ว ผอ.ศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์และหอดูดาวเกิดแก้วพร้อมคณะเป็นวิทยากรบรรยาย มี นายทิวา วัชรกาฬ นายอำเภอบ้านหมอ นางชมพูนุช วงษ์ไพร นายกองค์การบริหารส่วนตำบลขีดขิน พร้อมคณะนักเรียน นิสิตนักศึกษาคณาจารย์ ที่ร่วมโครงการร่วมต้อนรับพร้อมกางเต็นท์ตั้งค่ายพักแรมเข้าร่วมชมปรากฏการณ์
ในวันที่ 13-14 ธ.ค. คนไทยจะได้ชมปรากฏการณ์ฝนดาวตก “เจมินิดส์” ซึ่งเกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ช่วงที่จะเกิดฝนดาวตกมากที่สุดคือคืนวันที่ 13 ธ.ค.ถึงเช้ามืดวันที่ 14 ธ.ค. เป็นวันแรม 15 ค่ำ ไม่มีแสงจากดวงจันทร์มารบกวน จะสามารถมองเห็นฝนดาวตกด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือบริเวณใกล้กับกลุ่มดาวคนคู่ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตก มีลักษณะเป็นริ้วสีขาวพาดผ่านท้องฟ้า ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ของคืนวันที่ 13 ธ.ค. ตามเวลาในประเทศไทย จะสามารถสังเกตได้ง่าย เนื่องจากมีความเร็วไม่มากนัก ประมาณ 35 กม.ต่อวินาที คาดว่าจะเห็นดาวตกมากที่สุดช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปแล้ว
นอกจากนี้นักดาราศาสตร์ทั่วโลกคาดการณ์ว่าปีนี้จะเห็นฝนดาวตกมากกว่า 120 ดวงต่อชั่วโมง ตามเวลาในประเทศไทย หากรอชมฝนดาวตกในสถานที่ที่มีท้องฟ้ามืดสนิท ไม่มีแสงรบกวน หรือพื้นที่บนดอยสูงที่มีทัศนวิสัยของท้องฟ้าที่มืดสนิท อาจสังเกตดาวตกได้มากถึง 200 ดวงต่อชั่วโมงเลยทีเดียว ทั้งนี้ ตามสถานที่ท่องเที่ยวในต่างจังหวัดหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือบนยอดดอยและตามเทือกเขาต่างๆ นอกจากได้สัมผัสความหนาวเหน็บแล้ว จุดที่สภาพอากาศโปร่ง ท้องฟ้าเปิด บรรดานักท่องเที่ยว ต่างพาครอบครัว รวมถึงโรงเรียนสถานศึกษาต่างๆ จัดกิจกรรมออกค่ายพักแรม ดูฝนดาวตกกันอย่างคึกครื้น ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ต่อเนื่องถึง 05.00 น. ทั้งนี้ ฝนดาวตกคนคู่หรือเจมินิดส์ (Geminids) เกิดจากดาวเคราะห์น้อยชื่อ 3200 เฟธอน ที่เคยทิ้งเศษซากฝุ่นละอองเป็นสายธารไว้ในอวกาศเมื่อปี 2526 และเมื่อโลกโคจรผ่านเส้นทางสายธารฝุ่นละอองดังกล่าว เศษซากจะถูกแรงดึงดูดของโลกดึงดูดเข้ามาในชั้นบรรยากาศ แล้วเกิดแสงวาบหรือลูกไฟแสงสี โดยเหมือนพุ่งมาจากกลุ่มดาวคนคู่ และปีนี้คำนวณว่าจะเห็นได้สูงสุดประมาณ 90-100 ดวง
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น