วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2560

สุพรรณบุรี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ ทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย

        



                องคมนตรี นำทอดผ้าป่าเพื่อการศึกษาสมทบทุนสร้างห้องสมุดดิจิทัลภักดีภูวดล ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุพรรณบุรี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในศตวรรษที่ 21      





                พลเอกสุรยุทธ์  จุลานนท์  องคมนตรี เป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาสมทบทุนสร้างห้องสมุดดิจิทัลภักดีภูวดล ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย สุพรรณบุรี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาความรู้ในศตวรรษที่ 21  อีกทั้งยังส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้ได้มาตรฐานสากลและรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน รวมถึงสร้างโอกาสเข้าถึงทางการศึกษาอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบายลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ของรัฐบาลด้วย
 





              สำหรับห้องสมุดแห่งนี้ ได้นำระบบดิจิทัลทางการศึกษามาใช้ เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนเพิ่มโอกาสการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนและประชาชนทั่วไป ตามแผนแม่บทส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ของไทย พ.ศ.2560-2564
   





               ในการนี้นายพิภพ  บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี และประชาชนทั่วไป ร่วมให้การต้อนรับองคมนตรี และร่วมทำบุญทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาด้วย







ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

มุกดาหาร พ.อ.สุดใจ แพงพรมมา เป็นประธานในพิธีส่งทหารเรือพลัด 4/59




             เมื่อ 010800 ก.พ.60 พ.อ.สุดใจ  แพงพรมมา สัสดีจังหวัดมุกดาหาร เป็นประธานในพิธีส่งทหารเรือพลัด 4/59 พร้อมด้วยคณะสัสดีอำเภอ และคณะทหารเรือ รวมส่งทหารใหม่ทั้งสิ้น 55 นาย ณ บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ผลการปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย









  



อำนวย  เดชทองคำ   ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445

สุพรรณบุรี กอ.รมน. เปิดอบรมพัฒนาศักยภาพ กนช. ประจำปี 2560



              นายชนพหล ส่งเสริม นายอำเภออู่ทอง เป็นประธานเปิดการอบรมพัฒนาสัมพันธ์กองหนุนเพื่อความมั่นคงของชาติ (กนช.) ประจำปีงบประมาณ 2560   ที่ห้องประชุมเทศบาลตำบลท้าวอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ในวันนี้(31 ม.ค.60) พร้อมกล่าวว่า กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย สำนักกิจการมวลชนและสารสนเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ได้มอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี จัดอบรมดังกล่าวขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ก็เพื่อพัฒนาสัมพันธ์กองหนุนเพื่อความมั่นคงของชาติ เพื่อสร้างเครือข่ายในการเฝ้าระวัง แจ้งเตือนภัยคุกคามด้านความมั่นคง ยาเสพติด ทรัพยากรธรรมชาติ แรงงานต่างด้าว อาชญากรรมข้ามชาติ และเพื่อพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

               ด้านนายวรพจน์ ปรีชาวิทย์ กลุ่มงานปฏิบัติการด้านความมั่นคง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จัดอบรมในครั้งนี้ เพื่อให้ผู้ที่ร่วมการฝึกอบรม ได้รับการพัฒนาทักษะ และศักยภาพในการเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเตือน ด้านภัยคุกคามเพิ่มขึ้นมีตลอดจนการสร้างความคุ้นเคยกับครูฝึก เจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสุพรรณบุรีมากขึ้น



 ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445 

สุพรรณบุรี นายพิภพ บุญธรรม เตรียมการป้องกันและระงับอัคคีภัย ในพื้นที่เสี่ยง



               จังหวัดสุพรรณบุรี ป้องกันและระงับอัคคีภัย จัดชุดเฝ้าระวังตรวจตราพื้นที่เสี่ยง พร้อมขอความร่วมมือสถานประกอบการตรวจสอบอุปกรณ์ภายในอาคารเพื่อความปลอดภัย

                   นายพิภพ บุญธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี กล่าวว่า จังหวัดสุพรรณบุรีเตรียมการป้องกันและระงับอัคคีภัย ป้องกันความสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน เนื่องด้วยสภาพอากาศแห้ง อาจทำให้เกิดอัคคีภัยได้ง่ายและยากต่อการควบคุมเพลิง จึงกำชับเจ้าหน้าที่ให้เพิ่มมาตรการป้องกันและระงับอัคคีภัยในพื้นที่รับผิดชอบ โดยจัดชุดเฝ้าระวัง ตรวจตรา พื้นที่ชุมชน สถานประกอบการ สถานบริการ ร้านค้า อาคารหรือสถานที่ใด วัสดุสิ่งของภายในและโดยรอบ ที่มีสภาพเสี่ยงต่อการเกิดอัคคีภัยได้โดยง่าย และให้เตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือเครื่องใช้ในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพี่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที





                   ขณะเดียวกันให้สถานประกอบการหมั่นตรวจเช็คระบบป้องกันอัคคีภัยและอุปกรณ์ความปลอดภัยในสถานประกอบการให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ให้พร้อมใช้งานเสมอ ทั้งสำรวจ ตรวจสอบ อุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟฟ้า หากพบว่าสายไฟเก่าหรือชำรุดให้รีบเปลี่ยนหรือซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพปลอดภัย รวมถึงให้ความรู้ความเข้าใจและแนวทางปฏิบัติตนแก่ประชาชนในการป้องกันและระงับอัคคีภัยเบื้องต้นด้วย เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก


 ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445  

นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ ค้นพบภาวะอ้วนลงพุงมีผลกระทบต่อระบบสมอง




            นักวิจัยดีเด่นแห่งชาติสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์  ค้นพบภาวะอ้วนลงพุงมีผลกระทบต่อระบบสมอง เสี่ยงพฤติกรรมการเรียนรู้และความจำแย่ลง

             ศาสตราจารย์ ทันตแพทย์หญิง ดร.สิริพร  ฉัตรทิพากร คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะนักวิจัยดีเด่นแห่งชาติ สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์  ให้สัมภาษณ์กับทางสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุพรรณบุรี  เกี่ยวกับงานวิจัยผลกระทบภาวะอ้วนลงพุงต่อการเปลี่ยนแปลงของการทำงานในสมองว่า ปัจจุบันมีคนอ้วนลงพุงเพิ่มขึ้นจำนวนมาก  ซึ่งเมื่อมีภาวะอ้วนจะมีปริมาณไขมันจำนวนมากสะสมที่บริเวณหน้าท้องและเปลี่ยนตัวเป็นกรดไขมันอิสระไปสะสมที่ตับ  อีกทั้งทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลินแล้วชักนำให้เกิดโรคต่างๆตามมา เช่น เบาหวาน ไขมันสูง ความดันสูง จนส่งผลกระทบต่อระบบสมองด้วย  โดยจากการวิจัยพบว่ายิ่งอ้วนลงพุงมากเท่าใด สมองก็จะเสื่อมลงเท่านั้น และที่สำคัญการสูญเสียของสมองจากภาวะอ้วนลงพุงยังได้ส่งผลต่อพฤติกรรมการเรียนรู้และความจำต่างๆด้วย หรือกล่าวได้ว่า ยิ่งอ้วนจะมีการเรียนรู้และความจำที่แย่ลง ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในวัย15 ปีขึ้นไป  นอกจากนี้ยังพบว่าภาวะอ้วนลงพุงที่เกิดขึ้นเมื่อสมองเสื่อมไปแล้ว แม้จะลดน้ำหนักและรอบเอวลง แต่ไม่สามารถช่วยฟื้นฟูการทำงานของสมองให้กับมาปกติได้ มีเพียงแค่ยาต้านเบาหวานบางตัวเท่านั้นที่จะช่วยได้  ดังนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือการควบคุมอาหารและออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เข้าสู่ภาวะอ้วนลงพุง




             อย่างไรก็ตามผู้ที่สนใจ สามารถมาศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ งานวันนักประดิษฐ์ ประจำปี 2560 ที่ศูนย์ไบเทคบางนา ระหว่างวันที่ 2 - 6 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งจะมีผลงานของนักประดิษฐ์และนักวิจัยจำนวนมาก ที่สำคัญเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว "พระบิดาแห่งการประดิษฐ์ไทย”ด้วย


 ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445  

เทศบาลเมืองสระบุรีเปิดงาน มหกรรมอาหารสะอาด และความปลอดภัยในการบริโภค



              เมื่อ 31 ม.ค. 60 เวลา 19.00 น. ดร.ภาณุพงศ์  ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี และคณะผู้บริหารเทศบาลเมืองสระบุรี โดยสำนักการสาธารณสุขสิ่งแวดล้อม ร่วมกับ น.ส.ณัจยา  แก้วนุ้ย ผู้จัดการโครงการอาหารปลอดภัยอร่อยได้ไร้แอลกอฮอล์ (สสส.)   จัดงานมหกรรมอาหารสะอาด และความปลอดภัยในการบริโภค ประจำปี 2560  ขึ้นในวันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2560 ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดสระบุรี โดยมี นายบัณฑิตย์   เทวีทิวารักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เป็นประธานเปิดงาน มีนายเกียรติศักดิ์ ตรงศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรีพร้อมหัวหน้าส่วนราชการและประชาชนทั่วไป เข้าร่วมงานจำนวนมาก







               ในงานมีกิจกรรมมากมาย  อาทิ  การออกจำหน่ายอาหารที่ถูกสุขลักษณะ   การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของชุมชน  ผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน  การจัดกิจกรรมการประกวด การตอบปัญหาชิงรางวัล การประกวดร้านอาหารสะอาดและสวยงาม และการโหวตร้านอาหารอร่อยขวัญใจประชาชน ทุกคืน นอกจากนี้ยังมีดนตรี มหรสพตลอดงาน






                 ดร.ภาณุพงศ์  กล่าวว่า เพื่อเป็นการรณรงค์ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในจังหวัดสระบุรี ซึ่งเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของเทศบาลที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 16(8) แห่งพระราชบัญญัติกำหนดและขั้นตอนการกระจายอำนาจแห่งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.2542 เทศบาลเมืองสระบุรีจึงได้จัดทำโครงการมหกรรมอาหารเทศบาลเมืองสระบุรี (อาหารสะอาด และความปลอดภัยในการบริโภค) ขึ้น เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ร้านอาหารอร่อย ได้มาตรฐาน มีคุณภาพประจำจังหวัดสระบุรี ให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปสามารถเลือกซื้ออาหารที่สะอาดและปลอดภัย รวมทั้งให้ผู้ประกอบการได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นแรงจูงใจให้เกิดการปรับปรุงพัฒนาคุณภาพร้านอาหารของตนให้ได้มาตรฐานดียิ่งขึ้นต่อไป โดยมีการรณรงค์ส่งเสริมเรื่องของการรับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ทั้งความสะอาดและรสชาติที่ได้รับการรับรอง ผ่านหลักเกณฑ์ตามหลักสุขาภิบาลอาหารและน้ำ







                เทศบาลเมืองสระบุรี  ขอเชิญชวนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองสระบุรีและใกล้เคียงร่วมช้อปอาหารสะอาด  มีคุณภาพ  ชิมเมนูนานาชนิด  ชมการแสดงอันหลากหลายในมหกรรมอาหารสะอาด  และความปลอดภัยในการบริโภค ในวันที่ 31 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2560 นี้







(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)   ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445  

สระบุรี ผบ.ม. 4 รอ.เปิดโครงการรณรงค์เสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ




             เมื่อ 31 ม.ค.60 เวลา 09.00 น.พันเอก พนาเวศ  จันทรังษี ผู้บังคับการ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ ( ม.4.รอ.) เป็นประธานเปิดโครงการรณรงค์เสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติมี ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรีคณะกรรมการชุมชน อสม.พื้นที่ชุมชนบ้านอ้อย ม.พัน 11รอ. นักเรียนโรงเรียนเทศบาล 3(วัดบ้านอ้อย) พร้อมทั้งกำลังพลนายทหาร, นายสิบ และทหารกองประจำการ จำนวน 150คน เข้าร่วมกิจกรรม ณ.ห้องประชุมคงพูลศิลป์  ม.พัน 11รอ. อ.เมือง จ.สระบุรี  จากนั้นคณะผบ.ม. 4 รอ.และคณะได้เดินทางร่วมกิจกรรมการบริจาคโลหิต ของเหล่าทหารหาญและแม่บ้านกองพันทหารม้าที่ 11 รักษาพระองค์ ให้กับ เหล่ากาชาดจังหวัดสระบุรี  ณ. ห้องเรียน กองร้อย สสก. ม.พัน 11รอ. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชฯ อีกด้วย






             สำหรับโครงการรณรงค์เสริมสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ วัตถุประสงค์เพื่อสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ลดความขัดแย้งและความแตกแยกของคนในชาติ ด้วยการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการพระราชดำริฯ และกระแสพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชฯ ที่เกี่ยวกับการเสริมสร้างความมั่นคงภายในชาติ, การรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และโทษภัยของยาเสพติด เผยแพร่ ให้กับชุมชนในพื้นที่รอบค่ายทหารของหน่วย เพื่อเป็นสื่อกลางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ร่วมกับชุมชนไปสู่กระบวนการในการแก้ปัญหาของภาครัฐ และเพื่อให้การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปด้วยความเรียบร้อย กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ฯ และกองพันทหารม้าที่ 11รักษาพระองค์ฯ จึงจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น โดยมีการบรรยายพิเศษโดยวิทยากรของหน่วย ในหัวข้อเรื่อง อุดมการณ์รักชาติ/ความรักความสามัคคีของคนในชาติ และโทษภัยของยาเสพติด โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือชุมชนรอบค่าย






              พันเอก พนาเวศ จันทรังษี ผบ.ม.4 รอ.ฯ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมโครงการรณรงค์เสริมสร้างความรักความสามัคคี    ของคนในชาติ ในครั้งนี้ ตามวัตถุประสงค์ กรมทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ฯ ยังประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนการทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และประชาชนในการช่วยเหลือบรรเทาเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นอย่างดี โดยการน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการพระราชดำริฯ และกระแสพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชฯ อันนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และหลังจากฟังการบรรยายจากวิทยากรของหน่วยเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมขอเชิญชวนผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมบริจาคโลหิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดชฯ











(คนธรรมดา  ม้าตัวเดียว)  ศูนย์ข่าวท้องถิ่นออนไลน์   รายงาน   
เรวัติ  น้อยวิจิตร  Hub Admin rewat.noyvijit@hotmail.com  081-9107445