วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

ตร.ทางหลวงไล่ล่าฝรั่ง จิตป่วน มือปาขวด กร่างคับเมืองขอนแก่น

ฝรั่งชาวเยอรมันมาหากินเมืองไทยจิตป่วนทำสุดถ่อยปาขวดน้ำใส่รถผู้สื่อข่าวยังทำกร่างทางหลวงไล่ล่าหนีเข้าห้างดังไม่ยอมรับ ตร.ท้องที่มึนข้อหาเพียงไกล่เกลี่ยให้ สุดท้ายยอมขอโทษเมื่อจำนนหลักฐานกล้องติดรถยนต์
เมื่อ 5 ม.ค. 57 เวลา 14.00 น.ร.ต.อ.พรชัย แสงศิลา สว.ทล.ได้รับแจ้งจาก.ศูนย์วิทยุทางหลวงว่ามีรถเก๋งสีขาวยี้ห้อ PRiUS ทะบียนกร.3962 ขอนแก่นขับรถก่อกวนและปาสิ่งของใส่รถยนต์คันอื่นบน ถ.มิตรภาพบริเวณแยก อ.ท่าพระ จ.ขอนแก่นจึงได้นำรถวิทยุหมายเลข 4209 ออกไล่ติดตามโดยมีรถยนต์ผู้เสียหายค่อยรายงานเส้นทางการหลบหนีพบรถคันก่อเหตุวิ่งเข้าห้างแมคโค จ.ขอนแก่นพบคนขับชื่อนาย ก็อดฟรีย์ (Sedlak Gotfried Willibald )สัญชาติ เยอรมัน อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่55/123 หมู่ 7 ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งมีอาการคล้ายคนเมายา แสดงท่าทีไม่พอใจ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและตำรวจสายตรวจเมืองขอนแก่นพร้อมผู้เสียหายในที่เกิดเหตุ ได้พยายามจะเข้าทำร้ายและถ่ายรูป เจ้าหน้าที่และผู้เสียหายตลอดเวลา เมื่อ หัวหน้าผู้สื่อข่าว นสพ.พลังชน ประจำจังหวัดสระบุรี และเป็น ผอ.นสพ.บีทีเคนิวส์ ที่เดินทางมาพร้อมกับผู้เสียหายซึ่งเป็นน้องสาว ได้ถ่ายรูป นาย ก็อดฟรีย์ ได้พยายามเข้าทำร้าย กระชากบัตรผู้สื่อข่าว อีก เจ้าหน้าตำรวจทางหลวงจึงได้วิทยุติดต่อตำรวจท่องเที่ยวและแจ้ง รตอ.เมธี ศรีวันนา ร้อยเวร สภ.เมืองขอนแก่น เข้าสอบความว่า ขณะที่ น.ส.นงนุช บุญธิคำ อายุ 46 ปี พร้อมญาติ ได้ออกเดินทางจาก เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯเพื่อไปทำธระที่จ.อุดรธานี ถึงที่เกิดเหตุ บริเวณถนนมิตรภาพ ถึงทางแยก เขต อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นได้ มีรถเก๋งคันดังกล่าว วิ่งอยู่เลนขวาตลอดเวลาจึงได้วิ่งแซงทางด้านซ้าย แต่รถเก๋งที่ก่อเหตุ กลับเร่งเครื่องวิ่งประกบขวาไปตลอดเส้นทางไปพร้อมกับขว้างขวดน้ำเข้ามาใส่ทางด้านหน้ากระจกรถและยังขับรถปิดทางก่อกวนตลอดเส้นทางจึงได้แจ้ง 1193 ตำรวจทางหลวงเข้าระงับเหตุดังกล่าว ขณะที่ร้อยเวรฯแจ้งให้ทราบนาย ก็อดฟรีย์ ชั้นต้น ได้ให้การปฏิเสธยังแสดงอาการไม่สนใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทำท่าก่อกวนและถ่ายรูปเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้เสียหายตลอดเวลา จึงแจ้งให้ทราบว่าที่รถยนต์ ผู้เสียหายมีกล้องวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ไว้ตลอดเวลา ถึงกับหน้าถอดสี แต่ทางร้อยเวรแจ้งว่าไม่รู้จะแจ้งข้อหาอะไรรถยนต์ไม่เสียหาย และได้พยายามไกล่เกลี่ยให้ผู้เสียหายไม่ติดใจเอาความ จนสุดท้ายนาย ก็อดฟรีย์ ยินยอมกล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน น.ส.นงนุช ผู้เสียหายกล่าวว่า ขอให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ หากตนตกใจหักรถหลบตกข้างทางอาจเกิดอุบัติเหตุ ถึงบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้ แต่เรากลับได้รับแจ้งว่าไม่สามารถเอาผิดได้และขั้นตอนมีความยุ่งยากต่อการดำเนินคดีชาวต่างชาติเพราะถือสิทธิมากมาย ไม่แปลกใจที่ทุกวันชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่เมืองไทยแถบ ภาคอีสาน จึงได้กร่างและไม่เคารพกฏหมายในเมืองไทย มากนัก เพราะเราเห็นชาวต่างชาติเป็นแขกบ้านแขกเมืองจนลืมสิทธิของคนไทยมากไปหรือไม่ เพราะหากเหตุการณ์เช่นนี้หากเป็นคนไทยทำกับชาวต่างชาติเรื่องคงไม่จบง่ายๆเช่นนี้แน่นอนสำหรับชาวต่างชาติคนนี้คงเป็นบุคคลอันตรายกับคนไทยอย่างแน่นอนหากปล่อยให้อยู่ในประเทศต่อไปยิ่งใกล้การเปิดประชาคมอาเซียนใน ปี 58 หรืออาจเป็นพวกจิตป่วนอยากดังเนื่องจากทราบว่าเป็นรถยนต์ของสื่อมวลชนก็เป็นได้เนื่องจากด้านหน้าและด้านหลังของรถมีสติคเกอร์บอกชัดเจน ถือว่าเป็นบุคลอันตรายสำหรับสื่อมวลชนเป็นอย่างยิ่ง
(คนธรรมดา ม้าตัวเดียว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น