วันศุกร์ที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

กอ.รมน.สระบุรีสนธิกำลัง จนท. จู่โจมนายทุนบุกรุกพื้นที่อุทยานเขาสามหลั่น

กอ.รมน.สระบุรีสนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานเขาสามหลั่นจู่โจมนายทุนบุกรุกพื้นที่อุทยานฯอ้างเป็นเพื่อนอธิบดีกรมป่าไม้และน้องนายทหารชั้นผู้ใหญ่ รองผอ.กอ.รมน.สระบุรีพร้อมเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นจู่โจมกลุ่มนายทุนที่อ้างว่าตนเป็นนายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฏร์ธานี กำลังแผ้วถางป่าเตรียมการใช้เครื่องมือหนักบุกรุก เขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น อ้างดำเนินการถูกต้องปะทะคารมลั่นคุยได้สอบถามหน.อุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นคนใหม่แล้วเป็นเพื่อนอธิบดีกรมป่าไม้ และน้องนายทหารใหญ่จังหวัดสุราษฏร์ธานี พร้อมประกาศจะต่อสู้คดีท้า นัดแจ้งความโรงพักแต่กลับแก้เกี้ยวไปร้องผู้ว่าฯแทน เมื่อ 21 ก.พ. 56 เวลา15.00 น.หลังได้รับแจ้งจากราษฎร์ในพื้นที่ว่ามีนายทุนบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่นบริเวณเชิงเขาไร่นอก พลตรีนพดล พิศวง รองผอ.กอ.รมน สระบุรีพร้อมกับนายทวีพงษ์ ทิพย์สูงเนิน พนักงานพิทักษ์ป่า หน.ฝ่ายนุรักษ์ทรัพยากร อุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น และกำลังเจ้าหน้าที่ จึงรุดตรวจสอบ บริเวณป่าเชิงเขาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสามหลั่น หมู่ 7 บ้านป่าไม้พระฉาย ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี พิกัด P 315457 E1596834 พบชาย 4 คนและรถเก๋งมิตซูมิตชิ สีฟ้า ทะเบียน ชช-8975 กทม.และรถเก๋งโตโยต้า สีบร์อนทอง ทะเบียน 5160 กทม. จำนวน2 คัน จอดอยู่ในเขตอุทยานฯแต่ อีก1คนชื่อนายแผน หมื่นหมี ได้หลบหนีไป บริเวณซึ่งโดยรอบมีร่องรอยการแผ้วถางอย่าเห็นได้ชัดจึงสั่งให้หยุดการกระทำดังกล่าวพร้อมแจ้งให้ทราบว่าเป็นการบุกรุกแผ้วถางป่าในเขตอุทยานทราบว่ามีนายแผน หมื่นมี ที่เคยมีหนังสือขอความเป็นธรรมในการทำประโยชน์ ตามหนังสืออนุญาต สทก 1 ไปยังสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระบุรี เมื่อ 23 ม.ค.56 ที่ผ่านมาหลังเบื้องต้นเจ้าหน้าที่เคยระงับมาแล้วเพื่อตรวจสอบ หลังทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่ตรงตามใบ สทก.1 และได้ทำข้อตกลงร่วมกันไม่ให้ดำเนินการใดๆกับพื้นที่ดังกล่าวก่อนการตรวจสอบเสร็จ แต่ ชาย 1ใน 3 คนทราบภายหลังว่า ชื่อ นายสรพล เกื้อพิริยกุล อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 หมู่ 1 ต.เกาะพงัน อ.เกาะพงัน จ.สุราษฏร์ธานี อ้างว่าตนทำถูกต้องตามขั้นตอนมาแล้วจึงเข้าดำเนินการโดยไม่รับฟังคำชี้แจง ของเจ้าหน้าที่จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้นอย่างรุนแรง โดยนายสุรพลฯ อ้างว่า ตนเป็นนายกสมาคมการท่องเที่ยว จังหวัดสุราษฏร์ธานี ได้คุยกับหัวหน้าอุทยานคนใหม่เรียบร้อยแล้วพร้อมพูดข่ม เจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นเพื่อนกับอธิบดีกรมป่าไม้ และ ชายคนที่มากับ ตนก็เป็นอธิบดี และ ตนยังเป็นน้องชาย พลตรีกิจจา ศรีทองกุล ผบ.จทบ.สุราษฏร์ธานีหากจะดำเนินการอย่างไรก็พร้อมต่อสู้คดีและท้าทายเจ้าหน้าที่ว่าให้ไปคุยกับผู้ว่าราชการสระบุรีก็ได้หรือจะต่างฝ่ายต่างจะแจ้งความกันที่โรงพักก็ได้ เจ้าหน้าที่จึงอธิบายขั้นตอนการดำเนินการให้ฟังพร้อมกับแย้งถึง หน.อุทยานคนใหม่ยังไม่มารับตำแหน่งและคนเก่ายังทำงานอยู่และถามว่าคุณเจ้าของพื้นที่ตรงนี้ใช้หรือไม่จะได้ดำเนินคดีและพลตรีนพดลจึงได้แจ้งให้ทราบว่าตนเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันกับพลตรีกิจจา ที่คุณอ้างถึงและได้สอบถามว่าเป็นน้องพลตรีกิจจาทำไมคนละนามสกุล นายสุรพล จึงเงียบลงและแจ้งว่าแค่ลูกพี่ลูกน้องกัน หลังจากเจ้าหน้าที่ได้นัดหมายกับนายสุรพล ไปแจ้งความกันที่สภ.สระบุรีแต่นายสุรพลไม่ไปตามนัด แต่กลับไปเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามนายแผน หมื่นหมี มาสอบสวนให้การว่าตนได้ขายที่ตรงนี้ไปนานหลายสิบปี แล้วโดยมีนายวชิร สุวรรณศร เป็นนายหน้าและตนไม่เคยทำหนังสือขอความเป็นธรรมไปสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมสระบุรีและลายเซ็นก็ไม่ใช่ของตนและวันนี้ตนเพียงเป็นผู้ได้รับการว่าจ้าง มาแผ้วถาง เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามตรวจสอบกลุ่มบุคลที่ว่าจ้างและหาทางดำเนินคดีต่อไป คนธรรมดา ม้าตัวเดียว;

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น