วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ผบ.ทบ. ร่วมงาน วันทหารม้า ค่ายอดิศรสระบุรี

เมื่อ 4 ม.ค.56 เวลา 09.00 น.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะเดินทางเป็นประธานในพิธีวันทหารม้า ค่าย.อดิศร จ.สระบุรี ถวายเครื่องราชสักการะพระบรมราชานุเสวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และอนุสาวรีย์กรมหลวงอดิศร อุดมเดช มี พลตรีบุญสันติ แสนสวัสดิ์ ผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า พร้อมด้วย พลตรีสู่ชัย บุญรัตน์ ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสระบุรี นำคณะข้าราชการทหารหัวหน้าส่วนราชการ ในพื้นที่ อีกทั้งคณะนายทหารจากกองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ นำโดยพลตรีสุรศักดิ์ บุญศิริ ผบ.พล.ม. 2 รอ.พร้อมคณะ อดีตนายทหารม้าอาวุโสให้การต้อนรับ ต่อมา มีพิธีมอบเดือยโลหะสีทองกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2556 ณ. อาคารประมณฑ์ผลาสินธุ์ และได้เข้าร่วมทำพิธีสงฆ์ จนถึงเวลา 11.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.ได้เดินทางไปที่ลานอเนกประสงค์บุญชัยบำรุงพงศ์ เพื่อให้โอวาทแก่กำลังพล ศม.และ นขต.ศม. จึงเดินทางกลับ
สมเด็จ พระเจ้าตากสินมหาราชทรงเป็นพระบิดาของเหล่าทหารม้า ฉะนั้นศูนย์การทหารม้าซึ่งเป็นแหล่งวิทยาการของทหารเหล่าทหารม้า จึงถือว่าวันที่ 4 ม.ค. ของทุกปีเป็นวันทหารม้าตามประวัติศาสตร์ของชาติไทย ได้สร้างความภาคภูมิใจให้กับปวงชนชาวไทย ในแผ่นดิน” ณ. วันนี้ในอดีต เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนยี่ ปีจอ อัฐศก จุลศักราช ๑๑๒๘ ตรงกับวันที่ 4มกราคม 2309 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ขณะดำรงตำแหน่งเป็นพระยศเป็นพระยาวชิรปราการ พร้อมด้วยกำลังทหารจำนวนน้อย ได้ตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าที่ล้อม กรุงศรีอยุธยาออกไป เมื่อทหารพม่ารวบรวมกำลังไล่ติดตามมาถึง ณ บ้านพรานนก อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระองค์พร้อมด้วยทหารเอกคู่พระทัย อีก 4 นาย ได้ทำการรบบนหลังม้า ต่อสู้กับทหารพม่า 30 นาย จนได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาด จากพระปรีชาสามารถของพระองค์ในครั้งนั้นก่อให้เกิดความหึกเหิมในหมู่ทหาร และประชาชนในการรวบรวมพล เพื่อขับไล่อริราชศัตรู จนบังเกิดผลอย่างรวดเร็ว สามารถกอบกู้เอกราชของชาติไทยกลับคืนมาได้ในช่วงเวลาอันสั้น
จากการสู้รบในครั้งนั้น สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระองค์ทรงมีกำลังเพียง 5 นาย แต่ต้องต่อสู้บนหลังม้ากับทหารพม่าถึง 30นาย และยังมีผลเดินเท้าอีก200 นาย ได้สำเร็จ ย่อมแสดงให้เห็นถึงการใช้คุณลักษณะของทหารม้าในการรบ นั่นก็คือ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และความรวดเร็ว ในการเข้าทำลายล้างอย่างสมบูรณ์ ทหารม้าจึงยกย่องพระองค์เป็นบูรพาจารย์แห่งการรบบนหลังม้า และเป็นพระบิดาของเหล่าทหารม้าของเรา และได้ถือเอาวันที่พระองค์ท่านได้สร้างวีรกรรมในครั้งนั้นคือ วันที่ 4มกราคม ของทุกปีเป็น “วันทหารม้า” ในโอกาสที่วันทหารม้าได้เวียนมาบรรจบอีกวาระหนึ่งในวันนี้ ผมขอเชิญชวนท่านทั้งหลาย ได้ร่วมน้อมจิตรำลึกถึง พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ได้ทุ่มเทพระวรกายเข้าปกป้อง กอบกู้เอกราชของชาติ จนดำรงความเป็นชาติไทย มาจนตราบเท่าทุกวันนี้
( คนธรรมดา ม้าตัวเดียว )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น